Archive | กุมภาพันธ์, 2025

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วม ประมงสมุทรสาคร สร้างสมดุลระบบนิเวศ สานต่อ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3

ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วม ประมงสมุทรสาคร สร้างสมดุลระบบนิเวศ สานต่อ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3

Posted on 27 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

DSC_4464-1_resize

           แหล่งน้ำเป็นหัวใจสำคัญของระบบนิเวศที่หล่อเลี้ยงสิ่งมีชีวิต แต่ด้วยผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  มลพิษ และการกระทำของมนุษย์ ทำให้ความสมดุลของระบบนิเวศถูกคุกคาม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางแหล่งน้ำจึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ฟื้นฟูคุณภาพน้ำ หรือปกป้องระบบนิเวศชายฝั่ง เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงอยู่และสร้างอนาคตที่ยั่งยืน

          การปล่อยพันธุ์ปลาคืนสู่ธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งในแนวทางสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศและอนุรักษ์ความสมดุลของแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่เพียงช่วยเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์น้ำ แต่ยังส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆ ในห่วงโซ่อาหารสามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคธุรกิจในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติอยู่คู่กับคนรุ่นหลังได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

001_resize

          เพื่อร่วมเสริมสร้างสมดุลคืนสู่ธรรมชาติ  บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” สานต่อโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร จัดกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลากะพงขาวกว่า 4,000 ตัว คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูระบบนิเวศ สร้างสมดุลให้กับธรรมชาติ และส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

          กิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำในโครงการ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3 นี้ได้รับเกียรติจาก นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด, นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร และ นายสรวิชญ์ แซ่ลิ้ม นายกเทศมนตรีตำบลบางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ได้แก่ นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ, นางมนัสนันท์-นายอธิวัฒน์ เปรมพุฒิพันธ์ ที่นำทีมพนักงานบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจเพื่อสังคมในครั้งนี้

002_resize

          นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เกษตรกร ข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานกรมประมงจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมแรงร่วมใจในภารกิจเพื่อสังคมและปล่อยพันธุ์ปลากระพงขาวกว่า 4,000 ตัว คืนสู่แหล่งน้ำธรรมชาติเพื่อสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติและระบบนิเวศทางทะเลให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ณ บริเวณปากอ่าวตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร

          นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า กิจกรรม “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ถือเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจของบริษัทฯ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูประบบนิเวศสู่ธรรมชาติ ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศทางทะเล และเป็นโอกาสที่ดีที่ทางบริษัทฯได้มีส่วนร่วมกับทางภาครัฐและหน่วยราชการและก็ชุมชนท้องถิ่น บริษัทฯรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดีๆ อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้พนักงานและประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอกย้ำแนวคิดในการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง

003_resize

          นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ขอชื่นชมทางบริษัท ชลิต อินดัสทรีฯ ที่มีจิตสาธารณะให้ความร่วมมือกับทางประมงจังหวัดสมุทรสาคร ในการปล่อยพันธุ์ปลากระพงเพื่อไปกําจัดกับหมอคางดำเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทางประมงจังหวัดสมุทรสาคร ที่ต้องการรักษาระบบนิเวศและช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรที่เลี้ยงปลาพื้นบ้าน ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน องค์กรท้องถิ่น บริษัท ชลิต อินดีสทรีฯ และ ผู้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกิจกรรมในครั้งนี้ และขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันขับเคลื่อนต่อไป เพื่อความยั่งยืนของชุมชนและความสมดุลทางธรรมชาติ

ปิดความเห็น บน ชลิต อินดัสทรีฯ ร่วม ประมงสมุทรสาคร สร้างสมดุลระบบนิเวศ สานต่อ “ชลิต อินดัสทรี รักษ์เล ปล่อยปลา คืนสู่ธรรมชาติ” ปี 3

S__19079289_0_resize

TARIZ จับมือ UNIVERSAL ครั้งแรก! เจ้าแรกเจ้าเดียวเมืองไทย เปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Jurassic World

Posted on 26 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

S__19079366_resize

          NGG Jewellery ส่งแบรนด์ TARIZสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเครื่องประดับไทย ด้วยการจับมือกับ UNIVERSAL ครั้งแรก! เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษ Jurassic World: To Be Explored New Terrain ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ความกล้าหาญ และการค้นพบ ผ่านดีไซน์พิเศษที่มีความโดดเด่นทั้ง 4 คาแรคเตอร์คือ 1. Jurassic World Logo 2. Tyrannosaurus Rex 3. Mosasaurus 4. Velociraptor อันเป็นเอกลักษณ์บนเครื่องประดับทองคำแท้ 99.9% พร้อมวางจำหน่ายแล้วที่ NGG jewellery ทุกสาขา
ทั่ว
ประเทศ และทุกช่องทางออนไลน์ 

S__19079336_resize

          นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า “ NGG Jewellery ในฐานะผู้นำด้านเครื่องประดับแท้ของขวัญจากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับ ทั้งเพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ได้ร่วมมือกับ UNIVERSAL เพื่อนำเสนอคอลเลคชั่น Jurassic World: To Be Explored New Terrain เป็นครั้งแรกและหนึ่งเดียวในประเทศไทย คอลเลคชั่นนี้เปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้ผู้สวมใส่ได้ออกเดินทางสู่ดินแดนใหม่ ค้นพบเรื่องราวอันน่าทึ่ง ถ่ายทอดผ่านงานดีไซน์สุดประณีตและวัสดุคุณภาพสูง ด้วยทองคำแท้ 99.9% สร้างสรรค์โดยช่างฝีมือผู้ชำนาญการ แต่ละชิ้นสะท้อนเอกลักษณ์ของไดโนเสาร์แต่ละสายพันธุ์ได้อย่างลงตัว ”

S__19079285_0_resize

          ด้วย4 ดีไซน์พิเศษจากโลกจูราสสิคเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้มาพร้อม 4 คาแรคเตอร์สุดไอคอนิกของ Jurassic World
1) Jurassic World Logo
สัญลักษณ์ของการผจญภัยและการค้นพบ ด้านหน้าสลักโครงกระดูก T-Rex ด้านหลังเป็นโลโก้ Jurassic World
2)Tyrannosaurus Rexราชานักล่าแห่งยุคครีเทเชียส สื่อถึงพลังและความสง่างาม ด้านหลังดีไซน์เป็นกราฟฟิคลายต้นสน สะท้อนถึงอาณาเขตของทีเร็กซ์
3)Mosasaurusเจ้าสมุทรแห่งยุคไดโนเสาร์ เป็นสัญลักษณ์ของพลังและความลึกลับ ด้านหลังประดับกราฟฟิคลายน้ำ
4) Velociraptorไดโนเสาร์นักล่าอัจฉริยะ ว่องไวและเฉียบแหลม ด้านหลังสลักกราฟฟิคลายภูเขา บ่งบอกถึงถิ่นฐานของแรปเตอร์

S__19079287_0_resize

          พร้อมด้วยงานศิลป์ที่บอกเล่าเรื่องราว ทุกชิ้นผลิตด้วยเทคนิค 3D Electroforming ที่ให้ความแข็งแรง น้ำหนักเบา ทนทาน ดีไซน์มาในรูปทรง Hexagon หรือ 6 เหลี่ยม เรียบง่ายแต่หรูหรา เพิ่มความคลาสสิกด้วยอีนาเมลสีน้ำตาลเข้ม สื่อถึงเสน่ห์ของดินแดนลึกลับที่รอการค้นพบ

S__19079288_0_resize

          “เตรียมตัวออกเดินทางสู่การผจญภัยครั้งใหม่ไปพร้อมกับ TARIZ และ Jurassic World ได้แล้ววันนี้!ที่ NGG jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ สั่งจองหรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.nggjewellery.com Facebook: NGG Jewellery  และ LINE OA: @nggjewellery สำหรับราคาน้ำหนักที่กำหนดไว้ได้อ้างราคาแบบ Real time ตามราคาตลาดโลก ซึ่งลูกค้าสามารถเช็คราคาได้ตามจริง”  ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กล่าวในท้ายสุด

S__19079289_0_resize

ปิดความเห็น บน TARIZ จับมือ UNIVERSAL ครั้งแรก! เจ้าแรกเจ้าเดียวเมืองไทย เปิดตัวคอลเลคชั่นเครื่องประดับ Jurassic World

ผู้เชี่ยวชาญนิวซีแลนด์ แนะเทคนิคเขียนภาษาอังกฤษให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “ชัดเจน แม่นยำ เลี่ยงไวทยากรณ์ยาก” แนะเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์เพื่อฝึกใช้ในชีวิตจริง

ผู้เชี่ยวชาญนิวซีแลนด์ แนะเทคนิคเขียนภาษาอังกฤษให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “ชัดเจน แม่นยำ เลี่ยงไวทยากรณ์ยาก” แนะเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์เพื่อฝึกใช้ในชีวิตจริง

Posted on 26 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

           การเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการไม่เพียงเป็นทักษะสำคัญสำหรับนักเรียนแค่ในโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญสำหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียนเพื่อการสื่อสารทางวิชาการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังสำเร็จการศึกษา หรือการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น เช่น ปริญญาโทและปริญญาเอก ดังนั้น การเรียนรู้หลักการเขียนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็น

DSC_5023-1_resize

           มีเทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการที่น่าสนใจ ในงานสัมมนาวิชาการ ซึ่งจัดโดยสมาคมครูผู้สอนภาษาอังกฤษแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (Thailand TESOL) ร่วมกับ หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานเอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย และ มหาวิทยาลัยลินคอล์น (Lincoln University) ประเทศนิวซีแลนด์ ภายใต้หัวข้อเรื่อง “Academic Writing: Key Principles for Success (การเขียนเชิงวิชาการ: หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ)” โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาจากนิวซีแลนด์ได้แบ่งปันแนวทางสำคัญในการพัฒนาการเขียนภาษาอังกฤษให้ชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ และเข้าใจง่าย

           มร. เดริล สตรีท  (Mr. Daryl Streat) จากมหาวิทยาลัยลินคอล์น ประเทศนิวซีแลนด์ อดีตประธานสมาคม TESOL ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนเชิงวิชาการ:หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ (Academic Writing: Key Principles for Success) ว่า การเขียนเชิงวิชาการภาษาอังกฤษมีความสำคัญมากๆ ทั้งกับนักเรียนและคุณครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เนื่องจากนักเรียนต้องเตรียมพร้อมให้เชี่ยวชาญในการเขียนเชิงวิชาการให้พร้อมสำหรับการประกอบอาชีพหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย รวมถึงยังมีความสำคัญกับคุณครูผู้สอนเองด้วย เนื่องจากการเขียนเชิงวิชาการไม่ได้มีแค่ในโรงเรียน เช่น การเขียนรายงานและการเขียนงานวิจัยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นได้ทุกที่ เช่น การเขียนรายงานการประชุม ดังนั้นคุณครูจึงต้องเตรียมการเรียนการสอนและแบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการให้นักเรียนได้ฝึกฝนสม่ำเสมอ และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งถ้าคุณครูสามารถสอนและหาแบบฝึกหัดการเขียนเชิงวิชาการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอนาคตของนักเรียน เพราะการฝึกเขียนจะช่วยให้นักเรียนสามารถเขียนเรื่องราวได้กระชับ ชัดเจน และเป็นมืออาชีพ

            “อย่างไรก็ตาม การเขียนภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ มักพบปัญหาที่นักเรียนหลายคนเข้าใจผิดบ่อยครั้ง นั่นก็คือ การที่พวกเขาพยายามใช้ภาษาอังกฤษที่มีความซับซ้อนมากเกินไป และพยายามใช้หลักไวทยากรณ์ยากๆ ในการถ่ายทอดสิ่งที่จะสื่อสารผ่านตัวอักษรออกมาให้ผู้อ่านรับทราบ ทำให้เข้าใจยาก ผู้อ่านงานเขียนชิ้นนั้นๆไม่เข้าใจว่า ผู้เขียนต้องการจะบอกหรือจะสื่ออะไรกับผู้อ่าน ประเด็นหรือใจความสำคัญของเรื่องนี้คืออะไรกันแน่ อ่านแล้วไม่รู้ว่าเขากำลังเขียนอะไร  นอกจากนี้ ยังพยายามเขียนยาวเกินไป ซึ่งกลายเป็นน้ำมากกว่าเนื้อ ดังนั้น  นักเรียนควรจะเขียนงานออกมาให้มีโครงสร้างที่ชัดเจน สั้นกระชับได้ใจความจริงๆ เขียนสิ่งที่ต้องการบอกออกไปตรงๆ ง่าย ๆ จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจสิ่งที่เขียนง่ายมากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้โครงสร้างไวทยากรณ์และภาษาที่ซับซ้อน อ่านแล้วเห็นแนวคิดของผู้เขียนได้ทันที” มร. เดริล สตรีท กล่าวและเสริมว่า

DSC_5274_resize

           เทคนิคการเขียนเชิงวิชาการนั้นดูเหมือนจะยาก แต่ก็มีเทคนิคการเขียนงาน “Academic Writing: Key Principles for Success (การเขียนเชิงวิชาการ: หลักการสำคัญสู่ความสำเร็จ)” ให้ดีเยี่ยมทั้งหมด 4 ข้อด้วยกัน ซึ่งเป็น 4 เทคนิคการเขียนเชิงวิชาการจากประสบการณ์ที่ มร. เดริล สตรีท ได้แนะนำให้กับนักเรียน เพื่อใช้ในการปรับปรุงพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่

  1. ความชัดเจนและความแม่นยำ นักเรียนจะต้องมีความชัดเจนว่า ตัวเองกำลังเขียนเรื่อง หรือประเด็นอะไรอยู่ แล้วถ่ายทอดเรื่องราว หรือประเด็นที่เขียนออกมาผ่านข้อความที่จำเป็นต้องใส่ เน้นเนื้อ ไม่เน้นน้ำ
  2. อ่านให้เยอะ เพราะการอ่านหนังสือเยอะ ๆ จะช่วยให้ผู้เขียนได้เห็นรูปแบบการเขียนเชิงวิชาการและการใช้สำนวนภาษาอังกฤษหลากหลายแบบ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เขียนสามารถนำมาเป็นแนวทางและปรับใช้ในการเขียนเชิงวิชาการของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นและมีความน่าสนใจมากขึ้น
  3. การตระหนักรู้ในเรื่องที่เขียน การจะเขียนเชิงวิชาการผู้เขียนจะต้องรู้เรื่องหรือเชี่ยวชาญในสิ่งที่กำลังจะถ่ายทอดออกมาผ่านตัวอักษร และรู้จักการหาข้อมูลอ้างอิง นำมาสรุป และใช้เขียนประกอบบทความ เพื่อทำให้งานเขียนดังกล่าวนั้นถูกต้องและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
  4. ความถูกต้องในเชิงวิชาการ สิ่งที่เขียนต้องเป็นข้อเท็จจริงและสามารถอ้างอิงได้

           นอกจากนี้ มร. เดริล สตรีท ยังให้คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับนักเรียนและคุณครูที่อยากเป็นคนเขียนเชิงวิชาการได้ยอดเยี่ยมและเป็นมืออาชีพ นั่นคือ ฝึกการเรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยหาแหล่งข้อมูลดีๆ ไม่ว่าจะบนออนไลน์ หรืออฟไลน์ ฝึกทดสอบทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ควรหาแบบทดสอบการเขียนมาฝึกบ่อยๆ รวมทั้งหมั่นฝึกเขียนบันทึกประจำวัน เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนการถ่ายทอดประเด็นให้ดีขึ้น และฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะเป็นสิ่งจำเป็นไม่เพียงเฉพาะในงานเขียนเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับการสื่อสารนอกห้องเรียน เพราะต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับผู้คนท้องถิ่นในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารอีกด้วย

ENZ Teacher Seminar-3_resize

           ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ถือเป็นประเทศที่นักเรียนต่างชาติ รวมถึงนักเรียนไทยนิยมไปเรียนภาษาอังกฤษมากเป็นอันดับต้นๆของโลก เนื่องจากช่วยให้การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างก้าวกระโดด ด้วยวิธีการสอนที่เน้นการปฏิบัติ ฝึกฝนให้ใช้ในชีวิตจริง อีกทั้งผู้คนเป็นมิตร มีเพื่อนง่าย ทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันภาษาชั้นนำของนิวซีแลนด์ ครอบคลุมทุกระดับ สำหรับนักเรียนและผู้ใหญ่วัยทำงาน เพื่อการพัฒนาไปสู่การเรียนต่อ หรือการเพิ่มทักษะในการทำงานในหลายๆด้าน ทั้งพูด ฟัง อ่าน เขียน เพื่อให้มีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ   สำหรับผู้สนใจอยากจะพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษเพี่อการเรียนต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์ มีโปรแกรมอบรมภาษาอังกฤษ Pathway โดยนักเรียนที่ยังสอบไม่ได้ระดับ IELTS เพื่อเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์สามารถเรียนจบและเข้ามหาวิทยาลัยได้เลย และเรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์ตอนนี้ยังสามารถผ่อน 0% ได้ 6 เดือนด้วยบัตรเครดิต KTC

ผู้สนใจโปรแกรมอบรมภาษาอังกฤษ Pathway นิวซีแลนด์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.learnenglishnewzealand.com

ปิดความเห็น บน ผู้เชี่ยวชาญนิวซีแลนด์ แนะเทคนิคเขียนภาษาอังกฤษให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด “ชัดเจน แม่นยำ เลี่ยงไวทยากรณ์ยาก” แนะเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์เพื่อฝึกใช้ในชีวิตจริง

NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นยิ้มรับปันผล ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 24 % หรือมีรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท

NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นยิ้มรับปันผล ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 24 % หรือมีรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท

Posted on 22 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

NER CEO 04.02_resize

          NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท พร้อมจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.36 บาท รวม 665.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40.26 ของกำไรสุทธิ เผยปีนี้ (2568) เดินหน้ารุกธุรกิจพร้อมดันยอดผลิตและขายสินค้าสู่ 500,000 ตัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 34,000 ล้านบาท หรือเติบโต 24 %

          นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ผลิตยางธรรมชาติชั้นนำระดับโลก ที่มุ่งสร้างคุณค่าและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกชุมชนที่มีเรา”ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางพาราในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม ตอบสนองความต้องการของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และผู้ค้าคนกลางทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2567 ว่ามีปริมาณขาย 439,179 ตัน รายได้จากการขายรวมทั้งสิน 27,448.33 ล้านบาท แยกเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,652 ล้านบาท

          โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.36 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 665.20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 40.26 ของกำไรสุทธิหลังจากหักเงินทุนสำรองตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อหักเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงิน 92.39 ล้านบาท ที่จ่ายเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 คงเหลือเป็นเงินปันผลงวดสุดท้ายสำหรับผลประกอบการปี 2567 แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินหุ้นละ 0.31 บาท คิดเป็นเงินรวมประมาณ 572.81 ล้านบาท โดยจ่ายจากกำไรส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวจะถูกนำเสนอเพื่อขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในครั้งถัดไป

          สำหรับปีนี้ (2568) บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตว่าจะสามารถผลิตและก็ขายสินค้าประมาณ 500,000 ตัน คิดเป็นรายได้ประมาณ 34,000 ล้านบาท หรือเติบโต 24 % ” นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน NER ประกาศข่าวดียอดขายปี 2567 กำไร 1,652 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นยิ้มรับปันผล ตั้งเป้าปี 2568 เติบโต 24 % หรือมีรายได้กว่า 34,000 ล้านบาท

depa ต้อนรับคณะผู้บริหาร #DigitalCEO8 กิจกรรมปฐมนิเทศและศึกษาดูงานฯ

depa ต้อนรับคณะผู้บริหาร #DigitalCEO8 กิจกรรมปฐมนิเทศและศึกษาดูงานฯ

Posted on 21 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

DSC_0102-1_resize

         สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) โดย คุณฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ รองผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมด้วย ดร.จักกนิตต์ คณานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการพัฒนากำลังคนดิจิทัล ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐและภาคเอกชน 82 ท่าน ผู้อบรมหลักสูตรผู้นำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital CEO) รุ่นที่ 8 ในกิจกรรมปฐมนิเทศและศึกษาดูงานของหลักสูตรฯ

S__38174819_0_resize

         พร้อมกันนี้ ได้นำคณะผู้บริหาร #DigitalCEO8 เดินทางสู่ Thailand Digital Vally ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ศุภกร สิทธิไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส depa บรรยายและแนะนำ “Thailand Digital Valley: ASEAN Hub of Advance Digital Technology and Innovation” อีกทั้งคณะ #Digitalceo8 ยังได้สัมผัสการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล จาก AIS Evolution Experience Center (AIS EEC) โดยคุณนวชัย เกียรติก่อเกื้อ หัวหน้าส่วนงานการตลาดลูกค้าองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ให้การต้อนรับและบรรยายพิเศษ “5G manufacturing, trade and service use case spotlight” ก่อนเปิดให้คณะเยี่ยมชมและศึกษาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ที่ AIS EEC งานนี้ผู้บริหารต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก…

S__38174820_0_resize

ปิดความเห็น บน depa ต้อนรับคณะผู้บริหาร #DigitalCEO8 กิจกรรมปฐมนิเทศและศึกษาดูงานฯ

NER ชูแนวคิด NER Creating value beyond rubber ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางในงาน FTI EXPO 2025

NER ชูแนวคิด NER Creating value beyond rubber ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางในงาน FTI EXPO 2025

Posted on 19 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

S__73850896_0_0_resize

          เมื่อเร็วๆนี้ นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพร้อมทีมคณะผู้บริหาร นางสาวเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาดและควบคุมคุณภาพ , นางสาวปาร์ย อรรถพิสาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาความยั่งยืน , คุณณัฐธยาน์ เจษฎาพิสิฐ ผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาดและควบคุมคุณภาพ ฯลฯ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ยางแผ่นรมควัน ยางแท่งและยางผสม ผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภาครัฐและองค์กรชั้นนำระดับประเทศ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย ในงาน FTI EXPO 2025 ซึ่งเป็นงานรวมสุดยอดอุตสาหกรรมไทย

DSC_3264_resize_0_resize

          พร้อมกันนี้ ยังได้รับเกียรติจากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม  ให้เกียรติเยี่ยมชมบูธการแสดงผลงานของ NER อีกด้วย ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้ได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของนักลงทุน นักธุรกิจ  ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

S__18940179_resize

          NER ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางพาราระดับโลกที่มุ่งสร้างคุณค่าและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับทุกชุมชนที่มีเรา สร้างผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ มาจากสวนยางที่ให้ความยั่งยืน (Sustainable Rubber) ซึ่งได้นำผลิตภัณฑ์คุณภาพมากมายร่วมออกบูทในงาน FTI EXPO 2025 ล่าสุดผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปยางพารา  Rubber Flex :  แผ่นยางพาราปูพื้น ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งฟาร์มโคนม โคเนื้อ ฟาร์มลูกสุกร และสุนัข การดูแลรักษาง่ายช่วยเสริมสุขอนามัยเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแบ่งได้ 5 แบบคือ 1) cattleFlex Pro เหมาะสำหรับที่นอนและโรงรีดยืดหยุ่นสูง 2) cattleFlex Calf ออกแบบเพื่อการดูแลลูกวัว 3) cattleFlex Move เหมาะสำหรับทางเดินทนต่อแรงกดสูง 4) Cozy Pet ออกแบบเพื่อป้องกันขาเบะในลูกสุนัข การทำกายภาพบำบัด สุนัขผ่าตัด  และ 5) Pig Comfort สำหรับลูกหมูแรกเกิดและหมูอนุบาล เป็นต้น จากแหล่งผลิตคุณภาพสูง รองรับทุกก้าวเดินของการใช้ชีวิต พร้อมกับการนำเสนอความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยางพาราไทยแบบครบวงจรในทุกมิติ และที่สำคัญยังได้นำสินค้าชุมชนที่เป็นของดีจังหวัดบุรีรัมย์มาแสดงอีกด้วย  และการร่วมงานในครั้งนี้ยังเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการขยายตลาดไปยังตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพทั้งกลุ่มลูกค้าในประเทศและต่างประเทศอีกด้วยนับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมอันทันสมัยของบริษัทด้วย

          ท่านที่สนใจผลิตภัณฑ์แผ่นยางพาราปูพื้น หรือร่วมงานกับบริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER  สามารถคลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่  https://rubberflexthailand.com/th/  นายชูวิทย์ กล่าวท้ายสุด

ปิดความเห็น บน NER ชูแนวคิด NER Creating value beyond rubber ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางในงาน FTI EXPO 2025

depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 2

depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 2

Posted on 18 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

DSC_1832-1_resize

          เมื่อเร็วๆนี้ ดีป้า จัดพิธีมอบสัมฤทธิบัตรแก่ 57 ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 2 และกิจกรรมนำเสนอผลงานของผู้เข้ารับการอบรม ส่งมอบผู้บริหารรุ่นใหม่คุณภาพ
ต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้พัฒนาธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป ณ โรงแรมเอส 31 สุขุมวิท

          พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบสัมฤทธิบัตร แก่ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 2 จำนวน 57 ราย จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ก่อนร่วมรับฟังการนำเสนอผลงานของผู้เข้ารับการอบรมร่วมกับคณะผู้บริหารและผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายภาคส่วน อาทิ หม่อมราชวงศ์ จัตุมงคล โสณกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ดร.ณัฐชา ลิขิตกิจวรกุล ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ดร.ฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร อดีตวุฒิสมาชิกและรองประธานคณะกรรมาธิการ กมธ.การท่องเที่ยว วุฒิสภา พล.อ.ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก คุณดาเรศร์ กิตติโยภาส อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุณธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ดร.ชิษณุชา บุดดาบุญ รองอธิบดี กรมการข้าว ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คุณณฐอร อินทร์ดีศรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พล.ต.นพ.โชคชัย ขวัญพิชิต รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ว่าที่ร.ต.รัฐกร เขียวไพรศาล ผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย คุณพัชราภรณ์ สิริวรเวชยางกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ

DSC_1649_resize

คุณศัจธร วัฒนะมงคล อดีตศึกษาธิการภาค1 ผู้ทรงคุณวุฒิของสภาลูกเสือไทย ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) คุณภัทรา สุวรรณเดช รองผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง คุณชมนาถ พรสมผล รองผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค คุณอภิสิทธิ์ สุขสาคร ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) คุณณพงส์ อาริยวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัล การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คุณพรเทพ ล้อมพรม ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คุณเกศรา มุญชุศรี นายกสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ คุณจักร โกศัลยวัตร ผู้อำนวยการด้านสุขภาพดิจิทัล มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน กก.บริหาร ธ.ไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) และอดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย คุณปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ดร.ตุลย์ วงศ์ศุภสวัสดิ์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) อดีตนายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ดร.ชาลี อัศวธีระธรรม ประธานบริษัท ไลน์เน็ท กรุ๊ป (Lightnet Group) ผศ.ดร.จิระเสกข์ ตรีเมธสุนทร คณบดีคณะโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการบิน มหาวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก คุณเลิศรัตน์ รตะนานุกุล กรรมการบริหาร สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ฯลฯ

DSC_2112_resize

          พร้อมกันนี้ ได้แลกเปลี่ยนทัศนะและข้อเสนอแนะ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับผลงานซึ่งจะสามารถต่อยอดไปสู่เครื่องมือเปลี่ยนผ่านประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล อีกทั้งเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมดิจิทัลในอนาคต

          พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลโดยสมบูรณ์ ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และหลักสูตร Digital Jumpstart เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนการบูรณาการของผู้บริหารรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลที่มาจากต่างองค์กร หลากหลายอุตสาหกรรม แต่ร่วมมือกันระดมสมอง เพื่อค้นหาแนวคิดใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นในหลากหลายบริบท ซึ่งคาดหวังว่าผู้นำรุ่นใหม่จากหลักสูตร Digital Jumpstart จะเป็นบุคลากรสำคัญที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศในอนาคต

DSC_2113

          ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ depa กล่าวว่า หลักสูตร Digital Jumpstart มีเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้บริหารรุ่นใหม่ในทุกมิติ โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมทักษะและองค์ความรู้ สร้างความเข้าใจ และเปิดมุมมองด้านเศรษฐกิจดิจิทัล อีกทั้งยังเน้นเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในอนาคต ได้แก่ Digital Big Data, Digital Automation, Digital Connect และ Digital Access รวมถึงเน้นต่อยอดองค์ความรู้ การบริหารจัดการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ในการจัดทำนโยบายและแผนของหน่วยงานในอนาคต รวมถึงการสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจสังคมยุคใหม่ เพื่อสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารรุ่นใหม่ขององค์กรภาครัฐและเอกชนที่เป็นเครือข่ายอันเข้มแข็งในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป

          depa มุ่งมั่นเสริมแกร่งผู้นำดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารรุ่นใหม่ ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่สนใจเข้ารับการอบรมในหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 3 สามารถติดตามกำหนดการเปิดรับสมัครได้ที่ www.depa.or.th

ปิดความเห็น บน depa มอบสัมฤทธิบัตรแก่ผู้สำเร็จหลักสูตรดิจิทัลจั๊มสตาร์ท (Digital Jumpstart) รุ่นที่ 2

ข้อควรรู้เบื้องต้นการตรวจเช็คช่วงล่างรถยนต์ ให้แน่นฟิต พร้อมขับขี่ปลอดภัย

ข้อควรรู้เบื้องต้นการตรวจเช็คช่วงล่างรถยนต์ ให้แน่นฟิต พร้อมขับขี่ปลอดภัย

Posted on 18 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

DSC_0366_resize

         ช่วงล่างของรถยนต์เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดสำหรับการขับขี่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ หากช่วงล่างมีปัญหา เช่น หลวม โคลงเคลง หรือเสื่อมสภาพ อาจส่งผลให้การควบคุมรถลดลง เพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ และทำให้การขับขี่ไม่นุ่มนวล  ผู้ขับขี่รถยนต์ควรจักกับวิธีการดูแลตรวจเช็คเบื้องต้น และให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจซ่อมบำรุงและปรับปรุงช่วงล่างรถยนต์ให้แน่น ฟิต พร้อมรับมือทุกสภาพถนน ช่วยให้ผู้ใช้รถขับขี่ได้อย่างมั่นใจเตรียมพร้อมสำหรับทุกการเดินทางอย่างปลอดภัย

         นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้แบรนด์ “POP” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์มาตรฐานสากลฝีมือคนไทยที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี แนะนำว่า การตรวจเช็คและดูแลช่วงล่างของรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ผู้ใช้รถควรตรวจสอบสภาพช่วงล่างของรถเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากเดินทางไกลหรือขับขี่บนเส้นทางขรุขระ เพื่อป้องกันความเสียหายและช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์  เนื่องจาก ช่วงล่างของรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ หากช่วงล่างมีปัญหา อาจทำให้รถสูญเสียการทรงตัว เกิดเสียงดัง หรือมีอาการสั่นสะเทือนขณะขับขี่ ซึ่งอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้

S__72687631-1_resize

10 ข้อควรรู้ในการตรวจสอบดูแลสภาพช่วงล่างรถยนต์

         1. ตรวจสอบยาง: ความดันลมยาง ควรเช็คและปรับความดันลมยางให้ถูกต้องตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ตรวจสอบดอกยาง ดูว่ามีการสึกหรอมากเกินไปหรือไม่ โดยใช้เหรียญหรือเครื่องมือวัดความลึกดอกยาง และที่สำคัญต้องเช็คสภาพยางสม่ำเสมอ เช็ครอยแตก, การบวม, หรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำให้ยางเสียหาย

         2.ตรวจสอบระบบเบรก: ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเบรก และเปลี่ยนตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ที่สำคัญควร ตรวจสอบผ้าเบรก เช็คความหนาและสภาพของผ้าเบรกเพื่อป้องกันเสียงผิดปกติ หรือการสึกหรอที่ไม่สมบูรณ์

         3. ตรวจสอบโช๊คอัพ: ดูสัญญาณการรั่วซึม เพื่อตรวจสอบรอยน้ำมันที่อาจรั่วจากโช๊คอัพ นอกจากนี้ควร ทดสอบการทำงานของโช๊คอัพ ดูประสิทธิภาพความยืดหยุ่นโดยกดที่มุมรถแล้วปล่อยดูว่ารถกลับคืนได้เร็วหรือช้า

         4ตรวจสอบสปริง: เช็คความเสียหาย เช่น การเปลี่ยนรูปหรือการแตกของสปริง และควรทำความสะอาดจากสิ่งสกปรกเพื่อป้องกันการกัดกร่อน

         5. ตรวจสอบพวงมาลัย: เช็คการตอบสนอง โดยทดสอบว่าพวงมาลัยหมุนได้อย่างนุ่มนวล หรือมีเสียงผิดปกติ และควรตรวจสอบความหลวม เช็คการยึดติดของส่วนประกอบในระบบพวงมาลัย

         6. ตรวจสอบข้อต่อและบูช: ตรวจสอบสภาพการใช้งาน มองหารอยแตกหรือการสึกหรอที่จุดเชื่อมต่อ และ ตรวจสอบการติดตั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าชิ้นส่วนยึดติดอย่างแน่นหนา

         7. ตรวจสอบการบาลานซ์ล้อ: การบาลานซ์ล้อ ควรทำการบาลานซ์ล้อเป็นระยะ เพื่อป้องกันการสึกหรอไม่สม่ำเสมอ

         8. ตรวจสอบระบบขับเคลื่อน: ตรวจดูเพลาขับ เช็คว่ามีรอยแตก หรือสัญญาณการเสียหาย และน้ำมันหล่อลื่น ควรตรวจสอบระดับน้ำมันในระบบขับเคลื่อนและให้เติมตามความจำเป็น

         9. ทำความสะอาดช่วงล่าง: ควรล้างโคลนและสิ่งสกปรก เพื่อลดการกัดกร่อนและช่วยให้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

         10. การตรวจเช็คตามระยะ: ควรตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ และให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็คช่วงล่างอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง หรือทุก 10,000-15,000 กม.

8f2d1128-b3a8_resize

         การดูแลช่วงล่างรถยนต์อย่างละเอียดและสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้รถยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย  อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาว ช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ นอกจากนี้ การเลือกใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์จะมีสมรรถนะที่ดีและปลอดภัยต่อการใช้งาน ช่วงล่างแน่นฟิตยาวนาน พร้อมขับขี่อย่างปลอดภัย

         บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด มุ่งมั่นพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์คุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ “POP” ซึ่งได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างยาวนานมากกว่า 30 ปี  โดยมุ่งเน้นการผลิตชิ้นส่วนที่มีความทนทานและได้มาตรฐานสากล เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ครอบคลุมตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลจนถึงรถยนต์เพื่อการพาณิชย์   สอบถามรายละเอียด ที่ร้านอะไหล่รถยนต์ชั้นนำ ตัวแทนจำหน่าย หรือเว็บไซต์ https://chalitindustry.com  โทร.02 8026400   Email: info@chalitindustry.com

ปิดความเห็น บน ข้อควรรู้เบื้องต้นการตรวจเช็คช่วงล่างรถยนต์ ให้แน่นฟิต พร้อมขับขี่ปลอดภัย

Gemalyn ส่งคอลเล็กชันใหม่ “The Popstar celebration” 5ดีไซน์สวยเก๋ ชูจุดขายโดดเด่น… รับเดือนแห่งความรัก

Gemalyn ส่งคอลเล็กชันใหม่ “The Popstar celebration” 5ดีไซน์สวยเก๋ ชูจุดขายโดดเด่น… รับเดือนแห่งความรัก

Posted on 13 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

S__18858153_0_resize

          แบรนด์ Gemalyn  ภายใต้  NGG JEWELLERY เปิดคอลเล็กชันใหม่ “The Popstar celebration” 5 แบบ 5 ดีไซน์ 5 ความหมาย รับเดือนแห่งความรัก พร้อมชูจุดขายที่โดดเด่น “Shine Like a Star, Love Like a Diva” ส่องประกายความรัก ดั่งซุปเปอร์สตาร์แห่งหัวใจ เผยได้แรงบันดาลใจจากพลังแห่งความรักและเสน่ห์ดั่งซูเปอร์สตาร์ ชูจุดขายอันโดดเด่นด้วยการผลิตจากวัสดุคุณภาพ อัญมณีทุกชิ้นคัดสรรพิเศษ คุณภาพสูง ดีไซน์ที่สวยงาม ความหมายลึกซึ้ง เหมาะเป็นของขวัญแทนใจให้คนรักหรือให้ตัวเอง  วางจำหน่ายแล้วที่ NGG ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ เมื่อช้อปสินค้ารับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท กับโครงการ Easy E-Receipt 2568 ด้วย นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล  ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท เอ็นจีจี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด อาณาจักรเครื่องประดับแท้ของขวัญจากธรรมชาติรวมศาสตร์และศิลป์แห่งเครื่องประดับ ทั้งเพชร ทองคำ อัญมณี และนาฬิกา ได้รับความไว้วางใจและอยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี ได้ เปิดเผยว่า เพื่อรับเดือนแห่งความรัก แบรนด์ Gemalyn ภายใต้  NGG JEWELLERY เปิดตัวคอคเล็กชันใหม่ The Popstar celebration”  5 แบบ 5 ดีไซน์ 5 ความหมาย รับเดือนแห่งกุมภาพันธ์นี้ พร้อมชูจุดขายที่ไม่ซ้ำใคร “Shine Like a Star, Love Like a Diva” เปล่งประกายความรัก ดั่งซุปเปอร์สตาร์แห่งหัวใจ คอลเล็กชันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากพลังแห่งความรักและเสน่ห์ดั่งซุปเปอร์สตาร์ พร้อมถ่ายทอดความมั่นใจและเปล่งประกายแบบไร้ขีดจำกัด เพื่อมอบความสุขและความทรงจำอันแสนพิเศษให้กับคุณและคนรัก

S__18858159_resize

          “ส่วนแนวคิดในการออกคอลเล็กชันในครั้งนี้เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเดือนแห่งความรัก  คอลเล็กชันถูกออกแบบให้สะท้อนทั้งความโรแมนติกและพลังของความรัก ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความรักอันแสนหวาน ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความโรแมนติกและความเปล่งประกายได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการแสดงความรัก ผู้สวมใส่จะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจและเสน่ห์ที่ใครๆ ก็ต้องจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นลุคไหนก็ดูดี อีกทั้งยังผลิตจากวัสดุคุณภาพเยี่ยม อัญมณีที่คัดสรรเป็นพิเศษ ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ด้วยดีไซน์ที่สวยเก๋ ความหมายลึกซึ้ง และคุณภาพที่เหนือระดับให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องประดับทุกชิ้นในคอลเล็กชันนี้สวยงาม ทนทาน และมีมูลค่าจึงเหมาะที่จะมอบให้เป็นของขวัญแทนใจสำหรับคนรักหรือให้ตัวเองก็ตาม”

S__18858158_1

และสำหรับ Gemalyn  คอลเล็กชันใหม่  5 แบบ 5 ดีไซน์ 5 ความหมาย อาทิ

          1. Star Halo pop Ruby Necklace

          2. Twinky Twinky Pink Star Necklace

          3.Mini Popstar Ruby Ring

          4.Popstar Winky Ruby Ring

          5.Popstar Winky Purple Sapphire Ring

S__18858158_2

          “ทั้ง 5 แบบ 5 ดีไซน์นี้ ทุกชิ้นผลิตจากงานทองคำ 18K ซึ่งเป็นทองคำคุณภาพสูง เครื่องประดับพลอย และเพชร มีมูลค่าในตัวเองสูง ที่สำคัญมีความแข็งแรง เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน มีการไล่สีพลอย Sapphire หลากหลายเฉดสี อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Gemalyn  แหล่งพลอย Sapphire (แซฟไฟร์) และ Ruby (ทับทิม ) จาก แอฟฟริกา คุณภาพของอัญมณีของทางแบรนด์ได้ใช้คุณภาพเดียวกับงาน Hi-end Brand อัญมณีของทางแบรนด์เป็นเจียระไนการแบบเหลี่ยมต่อเหลี่ยมแบบสมมาตร ทำให้อัญมณีเปล่งประกายอย่างสูงสุด จากช่างชำนาญของ Gemalyn โดยเฉพาะ (เกรดการเจียระไนเดียวกับงานแบรนด์นาฬิกาชั้นนำของโลก) ทางแบรนด์มีการตรวจสอบอัญมณีทุกเม็ดผ่าน Lab ที่มาตราฐาน มั่นใจได้ว่าอัญมณีทุกเม็ดเป็นของแท้

          ท่านที่สนใจ เลือกช้อปสินค้าได้แล้วที่  NGG Jewellery ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ดูรายละเอียดที่ www.nggjewellery.com Facebook: Gemalyn Jewelry และ LINE OA: @Gemalyn Jewelry และเมื่อช้อปสินค้ารับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30,000 บาท กับโครงการ Easy E-Receipt 2568 นางสาวปัญจรัตน์ ทรัพย์หิรัญกุล กล่าวในท้ายสุด

ปิดความเห็น บน Gemalyn ส่งคอลเล็กชันใหม่ “The Popstar celebration” 5ดีไซน์สวยเก๋ ชูจุดขายโดดเด่น… รับเดือนแห่งความรัก

Manaaki New Zealand Scholarships 2025 Open Now!

Manaaki New Zealand Scholarships 2025 Open Now!

Posted on 13 กุมภาพันธ์ 2025 by writer

S__61489202_resize

This is a life changing opportunity to get a world-class education and vital skills while enjoying the relaxed and unique Kiwi lifestyle, hospitality, and culture.

The New Zealand Government offers Manaaki New Zealand Scholarships (Fully Funded Scholarships) to Thai candidates to undertake full-time postgraduate studies in New Zealand in 2026 within the following sectors:

  • Climate Change and the Environment
  • Disaster Risk Management
  • Food Security and Agriculture
  • Renewable Energy
  • Governance
  • Teaching English to Speakers of Other Languages (TESOL) (for Cambodia and Laos applicants only)

445584-manaaki-scholars-15_resize

Full scholarships are available for study at leading institutions in New Zealand, including:

  • Auckland University of Technology
  • Lincoln University
  • Massey University
  • University of Auckland
  • University of Canterbury
  • University of Otago
  • University of Waikato
  • Victoria University of Wellington
  • Southern Institute of Technology
  • Unitec Institute of Technology
  • Wintec – Waikato Institute of Technology

The following qualifications are available:

  • Master’s Degree (1-2 years)
  • PhD (3.5 years)

For full details of the scholarship, eligibility criteria, and how to apply online, visit https://www.nzscholarships.govt.nz/apply-online/

If you have any questions about the Manaaki New Zealand Scholarships, please visit:

https://scholarship.force.com/Scholar/s/enquiry

Application period: 1 – 28 February 2025

ปิดความเห็น บน Manaaki New Zealand Scholarships 2025 Open Now!

กุมภาพันธ์ 2025
พฤ อา
« ม.ค.   มี.ค. »
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728  

RELATED SITES