รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับการศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์ได้อย่างไรบ้าง ระบุว่า การศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะสามารถกลับมาสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในปีพ.ศ. 2573 ที่ผ่านมาในปี 2562 รายได้ที่เกิดจากการศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ได้ช่วยสนับสนุน GDP ของประเทศนิวซีแลนด์มากถึง 3.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์นิวซีแลนด์หรือราว 80,000 ล้านบาท
โดยสำหรับประเทศไทยตัวเลขนักเรียนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 มากกว่า ปี 2566 เพียงแค่ 3% เท่านั้น โดยมีตัวเลขนักเรียนไปเรียนภาษาเพิ่มขึ้นถึง 30% และยังมีตัวเลขนักเรียนไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ประเทศนิวซีแลนด์สามารถกลับมาเปิดประเทศ ก็ได้มีโครงการและกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษา ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีนักศึกษาต่างชาติทยอยเดินทางกลับเข้าศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์เต็มอัตราเหมือนเดิมในเร็วๆนี้ ซึ่งจะนำรายได้เข้าประเทศไม่เพียงแต่ในภาคอุตสาหกรรมการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย, วิทยาลัย, โรงเรียนมัธยม และโรงเรียนสอนภาษาเท่านั้น แต่ยังเอื้อประโยชน์ให้กับภาคธุรกิจอื่นๆ และช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ อาทิ การเดินทาง, ที่พัก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
อีกทั้งยังพบว่า มีนักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาแล้ว ยังพร้อมจะเป็นแรงงานที่มีทักษะในอนาคตในการเข้าทำงานกับธุรกิจและองค์กรชั้นนำต่างๆในนิวซีแลนด์อีกด้วย เนื่องจากนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่อนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติสามารถทำงานต่อได้สูงสุดถึง 3 ปีหลังเรียนจบอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งข้อมูลจากการวิจัยพบว่า มีนักศึกษาต่างชาติเข้าทำงานต่อในประเทศนิวซีแลนด์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
นายกรานท์ แมคเฟอร์สัน (Mr. Grant McPherson) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ Education New Zealand (ENZ) กล่าวว่า “รายงานวิจัยฉบับนี้เป็นการยืนยันถึงช่วงเวลาของภาคการศึกษานิวซีแลนด์ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญที่สุดคือ ภาคการศึกษาของนิวซีแลนด์ไม่ใช่แค่ช่วยสนับสนุนรายได้และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศ และยังมีคุณค่าในการสร้างสรรนักเรียนที่จะกลายไปเป็นพลเมืองโลก เพื่อสังคมแห่งอนาคตที่สดใส ยั่งยืน และยืดหยุ่น อีกด้วย”
จากรายงานวิจัยดังกล่าว ประกอบกับความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ “ENZ” ได้สรุปว่า การศึกษานานาชาติของนิวซีแลนด์สามารถช่วยให้นักศึกษาต่างชาติพัฒนาทักษะความสามารถให้ทัดเทียมระดับโลกภายในสภาพแวดล้อมการเรียนการสอนที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม และสามารถสร้างเครือข่ายพันธมิตรระหว่างประเทศได้ ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อนิวซีแลนด์ในภาคส่วนต่างๆ ในอนาคต ที่สำคัญยังช่วยสนับสนุน GDP ของประเทศนิวซีแลนด์ให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งสะท้อนให้ชาวโลกเห็นว่า นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่เหมาะสมต่อการไปเรียนต่ออย่างยิ่ง
ทั้งนี้ การศึกษานานาชาตินิวซีแลนด์ถือเป็นภาคบริการส่งออกรายใหญ่ของนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนในภูมิภาคเอเชีย ในปี 2019 จำนวนนักเรียนทั้งหมด 79% ที่มาเรียนที่นิวซีแลนด์มาจากประเทศในภูมิภาคเอเชียสูงถึง 89,862 คน รวมถึงนักเรียนไทยกว่า 3,000 คน โดยรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูการศึกษานานาชาติ โดยมีการเชื่อมโยงพันธมิตรกับสถาบันต่างๆทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการมุ่งพัฒนารูปแบบการนำเสนอบทเรียนในรูปเเบบใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายและยั่งยืน
สำหรับในประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ได้เตรียมจัดงานแนะแนวการศึกษาต่อประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand Education Fair 2023) โดยมีสถาบันการศึกษาชั้นนำจากประเทศนิวซีแลนด์ 50 สถาบัน ทั้งโรงเรียนมัธยม มหาวิทยาลัย (ครบทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์) สถาบันเทคโนโลยี และสถาบันภาษา ที่มาร่วมจัดกิจกรรมและมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับนักเรียนไทย พร้อมทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ ผู้สนใจสามารถขอรับคำปรึกษารายละเอียดหลักสูตรและโปรแกรมการศึกษาต่างๆที่เหมาะสมกับตนเอง และเปิดประสบการณ์ห้องเรียนจำลอง ที่ยกคลาสเรียนจากคุณครูนิวซีแลนด์มาให้ให้นักเรียนไทยทดลองเรียน ฟรี
ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมงาน ฟรี ในวันเสาร์ที่ 26 ส.ค. 2566 นี้ เวลา 11.00 – 17.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ 2 ชั้น 5 ลงทะเบียนที่นี่ https://bit.ly/nzeducationfair2023