Archive | ตุลาคม, 2021

ช่วงวิกฤติโควิด19 นี้ วอนเมตตาช่วยเหลือเด็กพิเศษ “รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” สร้างรายได้ เสริมกำลังใจ…สู่การพึ่งพาตนเอง

ช่วงวิกฤติโควิด19 นี้ วอนเมตตาช่วยเหลือเด็กพิเศษ “รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” สร้างรายได้ เสริมกำลังใจ…สู่การพึ่งพาตนเอง

Posted on 28 ตุลาคม 2021 by writer

          เด็กพิเศษที่บกพร่องทางด้านสติปัญญา กว่า 170 คน “โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโควิด 19 ทำให้การเรียนชะงัก เผย! เด็กเหล่านี้ต้องการ การดูแลอย่างใกล้ชิด และเด็กพิเศษมีหลายประเภททั้ง หูหนวก ตาบอด ปัญญาอ่อน ร่างกาย พิการ สมาธิสั้น มีปัญหาทางการเรียนรู้ มีปัญหาด้านการสื่อสาร เด็กออทิสติก หรือพิการซ้ำซ้อน จึงขอความเมตตาช่วยเหลือ สร้างรายได้ – ส่งเสริมกำลังใจให้เด็กพิเศษได้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติ สู่การพึ่งพาตนเองต่อไป ขอเชิญชวนร่วมบริจาคเงินสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา บริจาคโดยตรงได้ที่ ธนาคารกรุงไทย 591-6-00135-5 ชื่อบัญชี รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ โดยใบเสร็จนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า

ครูต่าย-1_resize

          นางสาววรรณวนัช  กันพรม ผู้จัดการโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ สถานศึกษาสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ มีนักเรียน นักศึกษาที่อยู่ในความดูแลกว่า 172 คน  ซึ่งเด็กที่อยู่ในโรงเรียนเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด  เด็กพิการหรือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ มีหลายประเภท เช่น หูหนวก ตาบอด ปัญญาอ่อน ร่างกาย พิการ สมาธิสั้น มีปัญหาทางการเรียนรู้ มีปัญหาด้านการสื่อสาร ออทิสติก หรือมีความพิการซ้ำซ้อน ซึ่งโรงเรียนฯ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2550 มีนักเรียนนักศึกษาได้จบการศึกษาตามระบบ จนสามารถก้าวสู่ถนนสายอาชีพและพึ่งพาตัวเองได้แล้วกว่า 38  คน

          จุดประสงค์การเปิด “โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” ก็เพื่อส่งเสริมศักยภาพเด็กหรือบุคคลเด็กที่มีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา สู่การพึ่งพาตนเองให้มีอาชีพ และดำรงชีวิตอิสระในสังคมอย่างมีสุข โดยทางโรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ ได้ร่วมกับศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ.ชลบุรี จัดให้มีการศึกษาเฉพาะบุคคลในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานและสร้างอาชีพ จัดการฝึกอบรมและมีกิจกรรมพิเศษเฉพาะกลุ่ม โดยมีอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ พร้อมอาหารมื้อเที่ยงโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ หนึ่งในหลักสูตรที่เปิดให้มีการเรียนการสอนคือการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อให้เด็กๆที่จบการศึกษาแล้วสามารถพึ่งพาตนเองและประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเอง มีรายได้เลี้ยงครอบครัว และสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาสังคมอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากการเรียนรู้และอบรมวิชาชีพ แล้ว ทางโรงเรียนยังได้จัดการศึกษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต ให้เด็กพิเศษมีความชำนาญยิ่งขึ้น

S__26255403_resize

          “โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” เป็นโรงเรียนการกุศล ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ หลังจากเกิดการระบาดของโควิด 19 ก็ได้รับผลกระทบโดยตรงกับนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ อีกทั้งรายได้สนับสนุนส่วนใหญ่มาจากการบริจาค ความช่วยเหลือของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ แต่ด้วยการระบาดของโควิดทำยอดบริจาคลดลงอย่างมาก ทางโรงเรียนขาดทุนทรัพย์ที่จะช่วยสนับสนุนการศึกษาและอาหารสำหรับน้องๆ จึงขอทุกท่านได้โปรดช่วยต่อลมหายใจสนับสนุนให้น้องๆเด็กพิเศษเหล่านี้ได้มีโอกาสทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง”ผู้จัดการ
โรงเรียนฯ กล่าว

Ray-School_resize

          สำหรับผู้มีจิตศรัทธา สามารถบริจาคช่วยเด็กนักเรียนพิเศษได้โดยตรงเพื่อให้ได้รับการศึกษา ฟื้นฟูสมรรถภาพและการฝึกอาชีพ ด้วยการโอนเงินบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงไทย 591-6-00135-5 ชื่อบัญชี โรงเรียนเด็กพิเศษคุณพ่อเรย์ โดยใบเสร็จนำไปลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า สอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ 092-7390990

ปิดความเห็น บน ช่วงวิกฤติโควิด19 นี้ วอนเมตตาช่วยเหลือเด็กพิเศษ “รร.เด็กพิเศษคุณพ่อเรย์” สร้างรายได้ เสริมกำลังใจ…สู่การพึ่งพาตนเอง

ม.ดังนิวซีแลนด์มอบทุนป.ตรี-ป.โท รอเตรียมเปิดประเทศ ในงานการศึกษาออนไลน์ 6 พ.ย.นี้ ลงทะเบียนร่วมงานฟรี

ม.ดังนิวซีแลนด์มอบทุนป.ตรี-ป.โท รอเตรียมเปิดประเทศ ในงานการศึกษาออนไลน์ 6 พ.ย.นี้ ลงทะเบียนร่วมงานฟรี

Posted on 26 ตุลาคม 2021 by writer

191021_1200x628_ scholarship_resize

          รายงานข่าวจากหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย แจ้งว่า มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาชื่อดังหลายแห่งของนิวซีแลนด์มอบทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท พร้อมมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ร่วมงานการศึกษาออนไลน์ ในวันที่ 6 พ.ย. นี้  เปิดโอกาสให้ร่วมพูดคุยตรงกับสถาบันการศึกษาเพื่อสมัครและขอรับทุน  ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรี https://bit.ly/NZHighereducatoinshowcase2021

          มหาวิทยาลัยทุกแห่งของนิวซีแลนด์ติด Top 3% ของโลก และนิวซีแลนด์ได้อันดับหนึ่งจากประเทศที่พูดอังกฤษเป็นหลักในการสอนนักเรียนเพื่อทักษะแห่งโลกอนาคตได้ดีที่สุดในโลก จาก The Economist Intelligence Unit 2019 โดยมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆได้มอบทุนการศึกษามากมาย อาทิ

  • The University of Auckland International Student Excellence Scholarship มอบทุนการศึกษาค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน Dean’s Asia Scholarship in the Faculty of Business and Economics สำหรับคณะธุรกิจ จำนวนจำกัด และทุนการศึกษาอื่นๆ มูลค่าสูงสุด 238,000 บาท สำหรับปริญญาตรีและโททุกสาขา
  • AUT International Academic Achievement Scholarship ทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 476,000 บาท สำหรับปริญญาตรีและปริญญาโท
  • Lincoln University ทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 238,000 บาท สำหรับปริญญาโท ตัวอย่างสาขาที่น่าสนใจ Master of Science in Food Innovation, Master of Business – Global Management and Marketing, Master of Management in Agribusiness, Master of Tourism Management
  • Massey University Master’s Research Scholarship มูลค่าสูงสุด 357,000 บาทสำหรับปริญญาโทที่มีการทำ research และทุนการศึกษาสำหรับ MBA มูลค่ากว่า 140,000 บาท
  • University of Waikato International Excellence Scholarship ทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 476,000 บาท สำหรับปริญญาตรีและปริญญาโท
  • University of Otago ทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 238,000 บาท สำหรับปริญญาโท และทุนการศึกษา มูลค่าสูงสุด 357,000 บาท สำหรับปริญญาโทที่มีการทำ research

          นอกจากนี้ ยังมีทุนการศึกษาจากสถาบันอื่นๆ มีทุนการเรียนต่อปริญญาโท คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ คอร์สเรียน Diploma อื่นๆ อีกมากมายเฉพาะในงานการศึกษาออนไลน์ “New Zealand Higher Education Showcase 2021”  งานเรียนต่อระดับอุดมศึกษาของนิวซีแลนด์ ใน วันที่ 6 พ.ย. นี้ น้องๆ นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ควรพลาด สามารถวางแผนศึกษาต่อนิวซีแลนด์ได้ทันที ไม่ต้องรอเปิดประเทศ งานนี้น้องๆจะได้เจอครบทุกมหาวิทยาลัยทั้ง 8 แห่งของนิวซีแลนด์ พร้อมพบกับคลาสเรียน  Concept Design ให้ทดลองเรียน ฟรี โดยMassey University ที่มีหลักสูตรร่วมกับ Weta Workshop ที่ทำหนังชื่อดังระดับโลกอย่าง The Lord of the Rings, Avatar และ The Hobbit และประกาศผล Concept Artist Award ทั่วโลก ที่นักเรียนไทยจากจังหวัดเชียงรายได้รับรางวัลชนะเลิศในปีนี้

ลงทะเบียนฟรี ที่นี่ https://bit.ly/NZHighereducatoinshowcase2021

ปิดความเห็น บน ม.ดังนิวซีแลนด์มอบทุนป.ตรี-ป.โท รอเตรียมเปิดประเทศ ในงานการศึกษาออนไลน์ 6 พ.ย.นี้ ลงทะเบียนร่วมงานฟรี

Education New Zealand and New Zealand Embassy in Thailand Present  Virtual Higher Education Showcase

Education New Zealand and New Zealand Embassy in Thailand Present Virtual Higher Education Showcase

Posted on 19 ตุลาคม 2021 by writer

150921_Poster-2

          Education New Zealand (ENZ) and the New Zealand Embassy in Thailand today announced they will be holding their inaugural New Zealand Higher Education Showcase on 6 November. Specifically designed for students in Thailand who are looking to pursue higher education in New Zealand in the long-term, the showcase is now open for free registration to both interested students and their parents, here. https://bit.ly/NZHighereducatoinshowcase2021

          At the virtual Showcase, attendees will have the opportunity to watch online presentations and have one-on-one meetings with New Zealand educational institutions. From these meetings, they can find out more about the institutions’ current offerings (both online and in-country options) and discover what’s possible when international students are able to safely return to New Zealand.

          Almost 20 New Zealand institutions including universities, New Zealand institutes of technology and other institutions will be participating in the virtual education showcase. A total of eight New Zealand universities include the Auckland University of Technology, The University of Auckland, Massey University, The University of Waikato, Victoria University of Wellington, University of Canterbury, Lincoln University and University of Otago.

          All these New Zealand universities sit among the world’s Top 3 per cent of universities according to the Quacquarelli Symonds (QS) 2021 Rankings. Furthermore, according to the Economist Intelligence Unit Educating for the Future Index 2019, New Zealand has emerged the top English-speaking country in the world when it comes to preparing students for the future.

          Students attending the showcase can also seek out more information about the various scholarships offered by the institutions.

          The 2021 New Zealand Higher Education Showcase will also see ENZ launch details of their 1-year Master’s Degree programmes available to Thai students. Some of these Master’s Degree programmes include the Master’s Degree in Digital Business, Master’s Degree in User Experience Design, Master’s Degree in Agribusiness, Master’s Degree in Bioscience Enterprise, and Master’s Degree in Robotics and Automation Engineering, amongst others.

150921 Poster-1_resize

          ENZ’s Regional Director Asia, Ben Burrowes, said this education showcase workshop reasserts New Zealand’s commitment to bringing the New Zealand education closer to more governments and institutions.

          He said, “With the 2021 New Zealand Higher Education Showcase, we hope to be able to demonstrate the best of New Zealand’s higher education sector to students in Thailand. There is a huge range of options for Thai students to begin their New Zealand study experience either online or with partner institutions in Thailand.

          “The New Zealand education system is one of the most dynamic and enriching, and we know that the decision making process behind selecting an international education destination requires plenty of time.

          “With information shared during the showcase, we hope students will be motivated by the value that our education system can offer, and indeed, we look forward to physically welcoming students once borders have reopened.”

Other activities open for participation during the 2021 New Zealand Higher Education Showcase are as follows:

          – Concept Design Class featuring the International Ultimate Concept Artist Award Announcement (Won by a Thai student this year). The class will be instructed by Massey University which offers entertainment design programmes with Weta Studio, the world-renowned film studio.

          – Visit our virtual exhibition hall for VDOs and Brochures from almost 20 institutions.

          – You will find all the information you need on applying for scholarships, with advice on how to submit your application and what to include.

          – Hear from 2021 New Zealand Alumni Hall of Fame inductees who will be sharing their success and work experience in New Zealand.

          – Mini Concert by Phum Viphurit, Asia’s 2019 Breakout Musician and a New Zealand Alumni.

ปิดความเห็น บน Education New Zealand and New Zealand Embassy in Thailand Present Virtual Higher Education Showcase

เผยผู้พิการรับผลกระทบหนัก นายจ้างเมินรับเข้าทำงานตามกฎหมายกำหนด วอน! ให้งาน ให้ชีวิตผู้พิการ ตาม ม.33 ช่วยทั้งครอบครัวฯ

เผยผู้พิการรับผลกระทบหนัก นายจ้างเมินรับเข้าทำงานตามกฎหมายกำหนด วอน! ให้งาน ให้ชีวิตผู้พิการ ตาม ม.33 ช่วยทั้งครอบครัวฯ

Posted on 14 ตุลาคม 2021 by writer

          ปัจจุบันผู้พิการได้รับผลกระทบหนัก นายจ้างเมินจ้างผู้พิการเข้าทำงานตามกฎหมายกำหนด เลี่ยงส่งเงินชดเชยแทน ชี้ข้อดีการจ้างผู้พิการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจ้างคนพิการเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิสูงถึง 2 เท่า มีผู้พิการที่ความสามารถมากทำงานได้หลากหลายเช่นคนปกติ อาทิ นักกฎหมาย นักบัญชี ศิลปิน เลขานุการ นักวิเคราะห์ทางการเงิน เป็นต้น เผย! สถานการณ์โควิด 19 ส่งผลกระทบหนักลดจ้างงานคนพิการหายไป 15 – 20% วอนภาครัฐเข้ามาดูแลเร่งด่วน เนื่องจากคนพิการเป็นกลุ่มเปราะบาง แต่สามารถสร้างความภูมิใจ มีคุณค่า – ศักดิ์ศรี ให้ครอบครัวได้พึ่งพิง วอน! นายจ้างให้งาน ให้ชีวิต ผู้พิการตาม ม.33 ติดต่อโดยตรงที่ 1479 สายด่วนคนพิการประชารัฐ เพื่อร่วมสรรหาบุคลากรคุณภาพให้เหมาะสมกับงานที่ทำให้ดีที่สุด…

IMG_4429_resize

          อาจารย์สัมฤทธิ์ ชาภิรมย์ ผู้จัดการ ศูนย์พิทักษ์สิทธิคนพิการ 1479 สายด่วนคนพิการประชารัฐ กล่าวถึงการจ้างงานผู้พิการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่ถูกกำหนดไว้ใน พ.ร.บ. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 โดยมาตรา 33 และกฎกระทรวงที่ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการทั้งเอกชนและหน่วยงานของรัฐที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไปต้องรับคนพิการเข้าทำงานในสัดส่วนคือลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน โดยข้อมูลบริษัทธุรกิจเอกชนทั่วประเทศที่ต้องจ้างคนพิการทั้งหมด 5.5 หมื่นคนเท่านั้น แต่ปรากฏว่ามีการจ้างจริงเพียงประมาณ 3 หมื่นกว่าคนเท่านั้น

          โดยนายจ้างส่วนใหญ่เลือกที่จะส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการมากกว่าจ้างคนพิการเข้าทำงาน ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้พิการ เนื่องจากการจ้างผู้พิการให้มีรายได้ช่วยเหลือตนเองนั้นมิใช่แค่ช่วยแต่ผู้พิการเท่านั้น แต่ยังช่วยให้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้อีกด้วย ดังนั้นมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จึงต้องการรณรงค์ให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการทั้งเอกชนและหน่วยงานรัฐ พิจารณารับผู้พิการเข้าทำงานในบริษัทของท่าน ตามมาตรา 33 โดยนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจ้างคนพิการ (เงินเดือน ค่าล่วงเวลา ฯลฯ) ลงเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ 2 เท่า

          เรื่องนี้นับเป็นปัญหาที่ภาครัฐต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการช่วยเหลือการจ้างงานคนพิการให้มีงานทำ ที่ผ่านมาได้ออกกฎหมายกำหนดจำนวนคนพิการที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการฯ ต้องรับเข้าทำงานและจำนวนเงินที่ต้องนำส่งเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี ซึ่งเงินที่นำส่งก็คำนวณจากอัตราค่าจ้างต่ำสุดของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานที่ใช้บังคับครั้งหลังสุดในปีก่อนที่มีหน้าที่ส่งเงินเข้ากองทุนฯ คูณด้วย 365 และคูณด้วยจำนวนคนพิการที่ไม่รับเข้าทำงาน  ซึ่งหากไม่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯหรือส่งล่าช้า หรือส่งไม่ครบถ้วน ต้องเสียต้องเบี้ย 7.5 ต่อปีของเงินที่ยังไม่ได้นำส่ง แต่กรณีที่รับคนพิการเข้าทำงาน หรือนำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ได้รับยกเว้นภาษี เป็นร้อยละของจำนวนเงินค่าจ้างที่จ่ายให้แก่คนพิการหรือเงินที่ส่งเข้ากองทุนได้

M-33_2_resize

          ปัจจุบันคนพิการจำนวนมากได้ผ่านการเรียนรู้และพัฒนาฝีมือเทียบเท่าคนปกติซึ่งผู้พิการแบ่งได้ 4 กลุ่มคือ (1) ผู้พิการทางด้านการสายตาและการมองเห็น (2) ผู้พิการทางการได้ยินหรือการสื่อความหมาย (3) ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย และ (4) ผู้พิการที่เป็นออทิสติก โดยผู้พิการที่ผ่านการเรียนรู้และอบรมวิชาชีพอย่างที่โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล ได้จัดการศึกษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต ตลอดจนฝึกอาชีพให้ผู้พิการเหล่านี้มีความชำนาญ สามารถประกอบอาชีพช่วยเหลือตนเอง ฯลฯ ผู้พิการสามารถทำงานได้เกือบทุกประเภทเหมือนคนปกติซึ่งอาชีพที่เหมาะสำหรับผู้พิการมีหลากหลาย อาทิ พนักงาน call center นักกฎหมาย ศิลปิน นักบัญชี เลขานุการ พนักงานบริการลูกค้า พนักงานในโรงงาน นักวิเคราะห์ทางการเงิน ที่ปรึกษา ครู พ่อครัว พนักงานขาย พนักงานธุรการ คนเขียนแบบ วิศวกร เกษตรกร ชาวสวน บรรณารักษ์ นักสถิติ นักเขียน เป็นต้น รวมถึงคนพิการที่เป็นบุคคลออทิสติกส่วนใหญ่จะประสบความสำเร็จในลักษณะงานทางศิลปะ เช่น การทำเครื่องประดับ ทำงานด้วยดอกไม้และพืช เป็นต้น

          นอกจากนี้ “ในช่วงที่ผ่านมามีการระบาดของโควิด 19 ซึ่งได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับการจ้างงานของผู้พิการเป็นอย่างมากสถานประกอบการหลายแห่งต้องปรับลดจำนวนพนักงานลงหรือยิ่งไปกว่านั้นคือต้องปิดตัวอย่างถาวร จึงทำให้อัตราส่วนการจ้างงานคนพิการลดลงตามไปด้วย จากการสำรวจพบว่าตำแหน่งงานจะหายไป 15 – 20% ซึ่งภาครัฐต้องเข้ามาดูแลแรงงานกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากคนพิการเป็นกลุ่มประชากรที่เปราะบาง จากที่เคยมีงานทำแล้วกลับมาตกงานจะได้รับผลกระทบอย่างมาก เช่น นอกเหนือจากเรื่องของเงินเดือนแล้ว เมื่อได้ทำงานคนพิการเหล่านี้มีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นที่พึ่งพิงให้กับครอบครัว รู้สึกมีคุณค่าและมีศักดิ์ศรี” ผู้จัดการฯ  กล่าวท้ายสุด

          ทั้งนี้ สำหรับนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการฯ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่ต้องการจ้างงานคนพิการที่เหมาะสมกับกิจการสามารถติดต่อได้ที่โทร 1479 สายด่วนคนพิการประชารัฐ ซึ่งจะประสานหาบุคลากรคุณภาพที่เหมาะกับความต้องการของบริษัทต่างๆ ในสภาวะวิกฤตินี้ขอปันน้ำใจช่วยเหลือผู้พิการให้ได้งานทำ ให้ชีวิตผู้พิการ ตาม ม.33 ทั้งไม่ใช่แค่ช่วยผู้พิการเท่านั้นแต่จะรวมถึงช่วยครอบครัวของผู้พิการอีกด้วย

ปิดความเห็น บน เผยผู้พิการรับผลกระทบหนัก นายจ้างเมินรับเข้าทำงานตามกฎหมายกำหนด วอน! ให้งาน ให้ชีวิตผู้พิการ ตาม ม.33 ช่วยทั้งครอบครัวฯ

รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย..จุดเริ่มต้นของ รร.เอกชนต้นแบบแห่งแรกของไทย

รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย..จุดเริ่มต้นของ รร.เอกชนต้นแบบแห่งแรกของไทย

Posted on 12 ตุลาคม 2021 by writer

           ถ้าจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นระบบการศึกษาไทยหรือสยาม ต้องขอย้อนไปในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งมีแต่เด็กผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับโอกาสเรียนหนังสือที่วัด แม้ผู้นำบ้านเมืองเริ่มสนใจจะจัดให้มีโรงเรียนเหมือนประเทศที่เจริญแล้วแต่ก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรเพราะสมัยนั้นไม่มีใครรู้เรื่องการจัดการศึกษาสมัยใหม่ กระทั่ง ในปี พ.ศ. 2394 คณะมิชชันนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียน (American Presbyterian) ได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ให้สามารถซื้อที่ดิน 2 แปลงที่ตำบลกุฎีจีน หลังวัดแจ้ง และตำบลสำเหร่ ต่อมาคณะมิชชันนารีได้ก่อตั้งโรงเรียนแห่งแรกที่ตำบลกุฎีจีนขึ้น โดยมีซินแสกีเฮียง ก๊วยเซียน เป็นผู้สอน และจ้างเด็กมาเรียนวันละ 12 สตางค์ นักเรียนกลุ่มแรกเป็นชาวจีน 8 คน ในปี พ.ศ. 2399 มีนักเรียนคนไทยกลุ่มแรกที่สมัครเข้ามา ในปี พ.ศ. 2405 เมื่อกิจการโรงเรียนเป็นไปได้ด้วยดี จึงย้ายที่ตั้งมาที่ตำบลสำเหร่ และมอบหมายให้ศาสนทูตเอล แมตตูน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ในขณะนั้นรัฐบาลไทยได้เปิดโรงเรียนของรัฐบาลแห่งแรกเพื่อให้การศึกษาเฉพาะบุคคลชั้นเจ้านายหรือบุตรข้าราชการในราชสำนัก โดยมอบหมายให้ท่านเอส.จี.แมคฟานแลนด์ (คุณพระอาจวิทยาคม) เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ท่านเอส.จี.แมคฟานแลนด์จึงเชิญท่านอาจารย์จอห์น.เอ.เอกิ้น เข้ามาร่วมงาน

14874036927949_resize

           ต่อมาในปี พ.ศ. 2431 ท่านอาจารย์จอห์น.เอ.เอกิ้น ลาออกจากตำแหน่งครูรัฐบาล และก่อตั้งโรงเรียนขึ้น ณ ตำบลกุฎีจีน ตั้งชื่อว่าโรงเรียนบางกอกคริสเตียนไฮสกูล (B.C.H) และได้เชิญอาจารย์และแหม่มเจ.บี.ดันแลป พร้อมด้วยน้องสาวของท่านเข้าร่วมงานในโรงเรียนด้วย ในปีนั้น อาจารย์จอห์น.เอ.เอกิ้น และคณะทั้งสามของท่านได้สมัครเข้าสังกัดของคณะเพรสไบธิเรียนแล้ว

           ในเวลาเดียวกันท่านศาสนทูตเอส.อาร์เฮ้าส์ ท่านศาสนทูตเจ.เอม.คัลเบริ์ทซัน ท่านศาสนทูตเอน.เจ.แมคโดนัล และท่านศาสนทูตเจ.แวนได๊ก์ ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ณ สหรัฐอเมริกา ทำให้ทางฝ่ายมิชชันนารีขาดผู้บริหารด้านการศึกษาไป ที่ประชุมจึงได้มีมติให้อาจารย์จอห์น.เอ.เอกิ้น เป็นผู้บริหารงานแทน ดังนั้นท่านอาจารย์ต้องบริหารโรงเรียนถึง 2 แห่ง ในเวลาเดียวกัน ทั้งโรงเรียนบางกอกคริสเตียนไฮสกูล ณ ตำบลกุฎีจีน และโรงเรียนของคณะมิชชันนารี ณ ตำบลสำเหร่ จนในที่สุดท่านก็ตัดสินใจยกเลิกกิจการโรงเรียนที่กุฎีจีน แล้วมุ่งหน้าปรับปรุงกิจการโรงเรียนของคณะมิชชันนารีที่สำเหร่

14874040328103_resize

           ในปี พ.ศ. 2443 คณะมิชชันนารีมีจุดมุ่งหมายในการขยายกิจการงานศึกษาให้กว้างไกลออกไป จึงได้ก่อตั้งสถาบันการศึกษาขึ้นใหม่ ณ ที่ดินชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งกรุงเทพฯ บริเวณถนนประมวล ตำบลสีลม อำเภอบางรัก และตั้งชื่อว่า “บางกอกคริสเตียนไฮสกูล”

           ในปี พ.ศ. 2456 คณะกรรมการของคณะมิชชันนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียนที่สหรัฐอเมริกา  มีมติให้ยกระดับของโรงเรียนไฮสกูล ( High School ) ขึ้นเป็นคอลเลจ (College) ชื่อโรงเรียนจึงได้รับการเปลี่ยนเป็น “กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย” (Bangkok Christian College )  และใช้อักษรย่อว่า B.C.C. ต่อมาในปี พ.ศ. 2463 โรงเรียนได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้มีวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล

           ตลอดเวลา 169 ปี ของ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มุ่งผลิตบุคคลากรที่ดีมีคุณภาพให้ประเทศชาติ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยมี ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติและสังคมไทยจำนวนมาก

กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยในปัจจุบัน 

           โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯมีการพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพกาล แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความโดดเด่นและมีความเป็นผู้นำอย่างชัดเจน ลักษณะอาคารเรียนของบีซีซีปัจจุบันกลายเป็นลักษณะอาคารสูง 16 ชั้น ถึง 3 อาคาร เป็นโรงเรียนแรกที่มีลักษณะอาคารแบบนี้ ภายในอาคารนั้นประกอบไปด้วยสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ดร.ศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ อดีตผู้อำนวยการ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เปิดเผยว่า หลักสูตรของโรงเรียนนั้นแบ่งออกเป็น 2 โปรแกรมคือ โปรแกรมการเรียนแบบสามัญ (Regular program) และโปรแกรมการเรียนใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการสอน (English Immersion Program, EIP) ทั้งสองหลักสูตรพัฒนาออกมาเพื่อตอบรับกับสังคมในยุคปัจจุบัน แต่รากปรัชญาของการศึกษายังคงเหมือนเดิม ใช้หลักธรรมแบบคริสตชนเป็นพื้นฐานในการฝึกอบรมคุณธรรมจริยธรรม มุ่งเน้นพัฒนาการด้านสติปัญญาควบคู่กับทักษะความเป็นผู้นำ

14846737096668_resize

           ในระดับประถมศึกษานั้น โรงเรียนฯ มุ่งเน้นหลักการเรียนการสอนตามแบบหลักทฤษฎี multiple intelligent เพื่อให้นักเรียนได้เปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ให้กว้างและหลากหลาย มุ่งสร้างให้เด็กนักเรียนได้สนุกกับการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียน โรงเรียนฯมุ่งพัฒนาทักษะความรู้ที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 เช่น มีห้องเรียนที่ใช้ไอแพดเป็นสื่อการเรียนรู้ มีห้องเรียนแมคอินทอชเป็นทางเลือก มีกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้เด็กได้พัฒนาทักษะดังได้กล่าวข้างต้น ผู้เรียนจะได้มีโอกาสเรียนรู้กับผู้สอนที่ประกอบอาชีพที่อยู่ในสาขาอาชีพมากมายแตกต่างกันไป ทั้งนี้เพื่อผู้เรียนจะได้มีโอกาสสัมผัสจากผู้มีประสบการณ์จริงในอาชีพหรืองานนั้น ๆ นำไปสู่การเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองต่อ ๆ ไป

           ในระดับมัธยมศึกษานั้น โรงเรียนฯมีการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียนได้ค้นพบตัวตนอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่การรู้จักตนเองว่าจุดอ่อนจุดแข็งของตนเองนั้นคืออะไร อันจะนำไปสู่การเลือกพัฒนาสติปัญญาความรอบรู้ของตนให้เป็นเลิศในทางที่ตนเองรักและชอบ โรงเรียนฯเปิดโอกาสให้นักเรียนใส่ชุดไปรเวทสัปดาห์ละ 1 วัน ซึ่งพบว่าการอนุญาตดังกล่าวนั้นได้มีส่วนเสริมความมั่นใจตนเอง รวมถึงการกล้าแสดงออก โรงเรียนฯพบว่านักเรียน มีความสุขมากขึ้นกับการมาโรงเรียน สนุกกับการเรียนหนังสือและการทำกิจกรมมากขึ้น หรืออาจกล่าวได้ว่านักเรียนบีซีซีนั้น มีความสุขในการมาเรียนหนังสือเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้โรงเรียนยังได้พัฒนาแผนการสอนของการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ยกเลิกระบบแผนการเรียนแบบยุคสมัยก่อน ที่มีเพียงสายวิทย์สายศิลป์เพียงเท่านั้น มาเป็นรูปแบบของ Pre-college (เตรียมอุดมศึกษา) ซึ่งเรียกว่า BCC NEXT โดยเป็นรูปแบบการเรียนที่มุ่งเน้นไปเฉพาะทางในสายอาชีพและสายการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยให้เข้มข้น ตรงตามความต้องการในการพัฒนาตนเองของผู้เรียนมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันบีซีซียังได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่มีการเรียนการสอนในเรื่องของดาวเทียมซึ่งถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรที่เรียกว่า space program หลักสูตรดังกล่าวโดยเริ่มต้นคือการมุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เกร่ายบวกับเทคโนโลยีทางด้านดาวเทียม บีซีซีได้รับการจารึกไว้อีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติว่าเป็นโณงเรียนแห่งแรกของประเทศไทยและแห่งแรกของภูมภาคอาเซียนที่สร้างดาวเทียมขนาดเล็กและปล่อยสู่วงโคจรของโลกในอวกาศ โดยดาวเทียมลูกนี้มีชื่อว่า BCC SAT1 ดาวเทียมดังกล่าวนั้นได้ถูกบรรจุและลงทะเบียนยอมรับอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

14874044716683_resize

           โรงเรียนกำลังพัฒนาระบบการเรียนแบบออนไลน์ให้รองรับกับสภาพปัจจุบันและอนาคต โดยมีแผนที่จะเพิ่มศักยภาพผู้สอนที่เป็นครูปัจจุบันและเชิญอาจารย์ในระดับมหาวิทยาลัยเพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้มากยิ่งขึ้น และอาจมีแผนการเรียนที่การเรียนเป็นลักษณะของเรียนออนไลน์เป็นหลัก (internet base learning) นอกจากนี้โรงเรียนกำลังพัฒนาให้ผู้เรียนได้มีโอกาสเรียนรู้ในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ จากสภาพจริงและในสถานที่จริง (internship program) ทั้งในระดับประถมและมัธยมศึกษา

           นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ.2395 จนถึงปัจจุบัน โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนให้เป็นโรงเรียนแห่งความสุข (School of Happiness) สมกับที่เป็นโรงเรียนเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย

ชาวบีซีซี ร่วมใจจัดกิจกรรมช่วยสังคมต้านภัยโควิด

           เนื่องในวันที่ 30 กันยายน 2564 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (B.C.C.) โรงเรียนเอกชนชายแห่งแรกของประเทศไทย จะครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน 169 ปี นายประพันธ์ ปุษยไพบูลย์ นายกสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เปิดเผยว่า เนื่องในวันสำคัญของโรงเรียนอันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน ในปีนี้ทางสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ร่วมกับ สมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รวมทั้งคณะครูและนักเรียน ได้ร่วมกันจัดโครงการ “B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคม ต้านภัยโควิด” ในช่วง 30 กย. – 4 ธค.นี้ เพื่อมอบเงิน อาหารและสิ่งของทางการแพทย์ต่างๆ ให้แก่บุคคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด 19 ในโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ รพ.ราชวิถี รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ เป็นต้น รวมทั้งการบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 11 แห่ง ขอเชิญศิษย์เก่าทุกคนและผู้มีจิตศัทราร่วมบริจาคได้ที่ ธ.กรุงไทยฯ เลขที่บัญชี 660-9-55548-6 ชื่อบัญชี กิจกรรม B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคมต้านภัยโควิด

ปิดความเห็น บน รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย..จุดเริ่มต้นของ รร.เอกชนต้นแบบแห่งแรกของไทย

หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ มอบทุนหลักสูตร New Zealand Global Competence Certificate อบรมเป็นพลเมืองโลก เรียนรู้โลกว้างสู่ความยั่งยืน

หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ มอบทุนหลักสูตร New Zealand Global Competence Certificate อบรมเป็นพลเมืองโลก เรียนรู้โลกว้างสู่ความยั่งยืน

Posted on 11 ตุลาคม 2021 by writer

          ในยุคโลกาภิวัฒน์ การเปิดมุมมองเรียนรู้โลกกว้าง ยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการเรียนรู้เพื่อความยั่งยืนเพื่อการเป็นพลเมืองโลก นับมีความจำเป็นยิ่งต่อการใช้ชีวิตข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรมได้ในอนาคต ช่วยให้นักเรียนมีทักษะ ความรู้ และความสามารถที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต การทำงาน และการเรียนรู้ไปทั่วโลก

ช่อทิพย์ ประมูลผล_resize

          เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้เรียนรู้มุมมองของนิวซีแลนด์เกี่ยวกับความเป็นพลเมืองโลก  หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ร่วมกับ Massey University ประเทศนิวซีแลนด์ ได้มอบทุนการศึกษาหลักสูตรการอบรมเป็นพลเมืองโลกในโครงการ New Zealand Global Competence Certificate (NZGCC) Programme  สำหรับเด็กไทย จำนวน 55 ทุน เป็นทุนเต็มจำนวนมูลค่า 15,000 บาทต่อคน รวมมูลค่ากว่า 825,000 บาท

          นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล  ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า หลักสูตรการอบรมเป็นพลเมืองโลกในโครงการ New Zealand Global Competence Certificate (NZGCC) Programme พัฒนามาจากหน่วยงาน AFS Intercultural Programs และ การอบรมดำเนินการสอนโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก Massey University ประเทศนิวซีแลนด์ เวลาเรียน 5 สัปดาห์

          โดยหลักสูตรนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้มุมมองของนิวซีแลนด์เกี่ยวกับความเป็นพลเมืองโลก รวมถึงความสามารถในการยอมรับการเปลี่ยนแปลงและการคิดนอกกรอบ เพื่อเป็นนักคิดเชิงวิพากษ์ สร้างผู้เข้าร่วมการอบรมให้เป็นบุคคลที่ถามคำถามและค้นหาคำตอบ โปรแกรมนี้จะช่วยสนับสนุนให้นักเรียนผู้เข้าร่วมกลายเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิตและเป็นผู้นำ พลเมืองโลกที่สามารถศึกษา ทำงาน และใช้ชีวิตข้ามพรมแดนทางวัฒนธรรมได้ในอนาคต เราต้องการพลเมืองโลกที่สามารถจัดการกับปัญหาของศตวรรษที่ 21 เช่น ความยั่งยืน โลกาภิวัฒน์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติของการศึกษานิวซีแลนด์ที่ต้องการสร้างการเป็นพลเมืองโลกให้กับนักเรียนของนิวซีแลนด์และนักเรียนต่างชาติที่มาศึกษาต่อที่นิวซีแลนด์ด้วย

S__42819827-OK_resize

          “ในขณะที่พรมแดนประเทศนิวซีแลนด์ ยังไม่ได้เปิดและการเดินทางไปเรียนต่างประเทศอาจจะยังไม่เกิดขึ้น Education New Zealand ภูมิใจที่ได้สนับสนุนหลักสูตรและโครงการ NZGCC นี้ให้กับนักเรียนไทยได้มีโอกาสได้เรียนรู้ไปพร้อมกับนักเรียนนิวซีแลนด์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือทางการศึกษาของสองประเทศ และประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมหลักสูตรกับเรา  หลักสูตร NZGCC นี้ช่วยให้นักเรียนมีทักษะ ความรู้ และความสามารถที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต การทำงาน และการเรียนรู้ไปทั่วโลก ให้นักเรียนได้เปิดมุมมองโลกทัศน์ให้มองไกลไปกว่าสังคมที่พวกเขาได้อาศัยอยู่ โดยเป็นการมองนอกกรอบ นอกสิ่งรอบข้างในชุมชนท้องถิ่นเข้าสู่สังคมระดับประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่น้องๆ นักเรียนจะได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนระดับโลกในวงกว้าง ได้รู้จักเพื่อนจากประเทศและวัฒนธรรมต่างๆ แบ่งปันประสบการณ์อันมีค่า และช่วยสร้างพลเมืองโลก น้องๆ จะได้ฝึกเรื่องความกล้าในการสื่อสาร ทั้งกล้าในการแลกเปลี่ยนความคิด และการเป็นผู้รับฟังมุมมองที่แตกต่าง” นางสาวช่อทิพย์ กล่าวและเสริมว่า

          โครงการ NZGCC Programme นี้ Education New Zealand ได้นำร่องไปแล้ว 2  กลุ่ม โดยได้มอบทุนการศึกษาเต็มจำนวนมูลค่า 15,000 บาทต่อคน  ให้แก่นักเรียนไทยที่กำลังศึกษาในระดับมัธยมปลาย  จำนวนทั้งสิ้นจำนวน  55 คน จากโรงเรียนต่างๆ ได้แก่ โรงเรียนจิตรลดา โรงเรียนกำเนิดวิทย์  โรงเรียนวารีเชียงใหม่ โรงเรียนอุดมศึกษา โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี โรงเรียนอำนวยศิลป์ และ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่ โดยน้องๆ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์อบรม ได้แก่

1 ณัฏฐณิชา วิจิตตปัญญารักษ์ (น้องข้าวผัด)_resize

          น.ส.ณัฏฐณิชา วิจิตตปัญญารักษ์ (น้องข้าวผัด) ชั้น ม.6 โรงเรียนวารีเชียงใหม่ บอกว่า  “หนูดีใจมากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ NZGCC ตอนแรกที่สมัครเข้ามาก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่พอได้ลองเข้าเรียน ได้ร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนทั้งคนไทยและนิวซีเเลนด์ รู้สึกสนุกมากๆ จากที่กังวลเรื่องภาษา แต่พอได้เข้าคลาสเเล้วก็สบายใจมากค่ะ เพราะคุณครูที่สอนเป็นมิตรและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เเสดงออกอย่างเต็มที่ เพื่อนๆที่นิวซีเเลนด์ก็น่ารักมากๆ จนอยากไปเจอตัวจริงเลยค่ะ หนูได้เรียนรู้อะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนเยอะมากเลยค่ะ ทั้งความหลากหลายในสังคม วัฒนธรรม ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อนต่างชาติ ได้ยิ้มหัวเราะสนุกสนาน เรียกได้ว่าคอร์สนี้เปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตของหนูไปเยอะมาก ถึงแม้จะเป็นเวลาไม่นาน และได้เพียงพูดคุยกันผ่านหน้าจอ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำมากที่สุดเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอีก หนูจะไม่พลาดโครงการดีๆแบบนี้เเน่นอนค่ะ”

          น.ส.นันทภัทร์  เวทยสุภรณ์ (น้องตุ๊กติ๊ก) ชั้น ม. 4 โรงเรียนจิตรดา เล่าถึงความรู้สึกว่า “เป็นครั้งแรกที่ร่วมกิจกรรมแบบนี้ ได้เจอเพื่อนต่างชาติหลายคน คุยกันเยอะมากๆ ส่วนใหญ่เป็นข้อหัวเกี่ยวกับวัฒนธรรม สังคม ความแตกต่างของสังคมของทั้งสองประเทศ พอจบกิจกรรมเห็นได้ชัดเลยว่าภาษาอังกฤษดีขึ้นมาก ไม่ใช่เฉพาะการพูดเท่านั้น แต่การเป็นผู้ฟังที่ดีการคิดวิเคราะห์ แสดงความคิดเห็นก็ดีขึ้นมาก สนุกมากค่ะ  ยินดีมากๆที่ได้ร่วมกิจกรรมนี้ จะคอยติดตามหวังว่าได้ร่วมกิจกรรมแบบนี้ต่อๆไปนะคะ”

3. แองเจอรีน่า คัลยานี (น้อง Angie)_resize

          ด.ญ. แองเจอรีน่า คัลยานี (น้องแองจี้) ชั้น ม.3 โรงเรียนอำนวยศิลป์ กล่าวว่า “การที่หนูได้มีโอกาสเข้าร่วมหลักสูตร NZGCC ครั้งนี้ ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างทั้งการเข้าใจมุมมองที่หลากหลายจากคนแต่ละเชื้อชาติ และได้เรียนรู้ปัญหาโลกหลายๆประเด็นพร้อมวิธีที่จะเผชิญหน้ากับมัน ทำให้เป็นเรื่องที่สำคัญและจะมีประโยชน์กับเราในอนาคตได้ ส่วนบรรยากาศในห้องเรียนเป็นกันเองมาก ครูและเพื่อนๆต่างทำให้เรากล้าที่จะพูดความคิดเห็นส่วนตัวอย่างเปิดกว้าง โดยไม่ตัดสินว่าใครผิดหรือถูก ทำให้เป็นที่ที่น่าเรียนรู้และน่าจดจำ หนูเชื่อว่าทุกคนได้ก้าวสู่การเป็นพลเมืองโลกที่ดีอีกขั้นหนึ่ง ตลอดเวลาที่ได้เข้าร่วมหลักสูตรนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและได้สร้างมิตรภาพกับเพื่อนใหม่ๆอีกด้วยค่ะ”

          นางสาวมนัสนันท์  หงษ์ชูเกียรติ (น้องเนเน่)  ชั้นม.5 โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เล่าว่า “การได้เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนกับ New Zealand ได้เข้าคอร์สอบรมสั้นๆ ระยะเวลา 5 สัปดาห์ เกี่ยวกับ Global competance ค่ะบรรยากาศในการเรียนค่อนข้างเป็นกันเองมากๆะ อาจารย์จะมีคอร์สให้เราเรียนด้วยตัวเองก่อน แล้วเมื่อถึงวันเสาร์ก็จะมาทำการ discussion กันค่ะ รู้สึกว่าการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ได้อะไรที่แตกต่างออกไป นอกจากจะได้เจอเพื่อนและสังคมใหม่ๆ แล้วก็ยังได้แลกเปลี่ยนทัศนคติและเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งก็จะเป็นผลดีกับเราเมื่อเราโตขึ้นและได้เรียน หรือทำงานในสังคมที่กว้างขวางขึ้นด้วยค่ะ รู้สึกว่าการแลกเปลี่ยนครั้งนี้เป็นประโยชน์มากๆ เลยค่ะ”

ปิดความเห็น บน หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ มอบทุนหลักสูตร New Zealand Global Competence Certificate อบรมเป็นพลเมืองโลก เรียนรู้โลกว้างสู่ความยั่งยืน

169 ปี  บีซีซี ร่วมใจต้านภัยโควิด

169 ปี บีซีซี ร่วมใจต้านภัยโควิด

Posted on 01 ตุลาคม 2021 by writer

S__132530654-1_resize

             นายประพันธ์ ปุณยไพบูลย์ นายกสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ร่วมกับ นางวราพร ทรัพย์สมบูรณ์ ผอ.โรงเรียน กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นางอรวรรณ พยุหนาวีชัย กรรมการ สมาคมผู้ปกครอง เเละครู รร กรุงเทพคริสเตียน และ ศิษย์เก่า อาทิ นายมนูญ พุฒทอง นายอภิชาติ พริ้งพวงเเก้ว นายสุเมธ สุรบถโสภณ ได้ไปร่วมมอบเงิน 169,000 บาท  อาหาร 500 กล่อง หน้ากากอนามัย 10,000 ชิ้น และอุปกรณ์ทางการแพทย์มูลค่า 80,000 บาท ใน โครงการ B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคม ต้านภัยโควิด” ให้กับ รพ.ราชวิถี โดยมี น.พ.อุดม เชาวรินทร์ ผู้จัดการมูลนิธิ ร.พ.ราชวิถี และ น.พ.ไพโรจน์ เครือกาญจณา รอง ผอ.ร.พ.ราชวิถี เป็นผู้แทนรับมอบ ณ รพ. ราชวิถี เมื่อเร็วๆนี้

DSC_2314_resize

             โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (B.C.C.) เป็น โรงเรียนเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน 169 ปีในวันที่ 30 กันยายน 2564 ตลอดเวลา 169 ปี ของ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้มุ่งผลิตบุคคลากรที่ดีมีคุณภาพให้ประเทศชาติ มีศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติและสังคมไทยจำนวนมาก

DSC_2203_resize

             เนื่องในวันสำคัญของโรงเรียนอันเป็นที่รักยิ่งของศิษย์เก่าและปัจจุบันทุกคน ในปีนี้ทางสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ร่วมกับ สมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รวมทั้งคณะครูและนักเรียน ได้ร่วมกันจัดโครงการ “B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคม ต้านภัยโควิด” ในช่วง 30 กย. – 4 ธค.นี้ เพื่อมอบเงิน อาหารและสิ่งของทางการแพทย์ต่างๆ ให้แก่บุคคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด 19 ในโรงพยาบาลต่างๆ ได้แก่ รพ.ราชวิถี รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี รวมทั้งการบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ รพ.เทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 11 แห่ง ขอเชิญศิษย์เก่าทุกคนและผู้มีจิตศัทราร่วมบริจาคได้ที่ ธ.กรุงไทยฯ เลขที่บัญชี 660-9-55548-6 ชื่อบัญชี กิจกรรม B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคมต้านภัยโควิด

ปิดความเห็น บน 169 ปี บีซีซี ร่วมใจต้านภัยโควิด

ตุลาคม 2021
พฤ อา
« ก.ย.   พ.ย. »
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031

RELATED SITES