Archive | กันยายน, 2021

ชาวกรุงเทพคริสเตียน (BCC) ร่วมใจจัดกิจกรรมช่วยสังคมต้านภัยโควิด ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน BCC 169 ปี รร.เอกชนแห่งแรกของไทย

ชาวกรุงเทพคริสเตียน (BCC) ร่วมใจจัดกิจกรรมช่วยสังคมต้านภัยโควิด ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน BCC 169 ปี รร.เอกชนแห่งแรกของไทย

Posted on 29 กันยายน 2021 by writer

001

          เนื่องในวันที่ 30 กันยายน 2564 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (B.C.C.) โรงเรียนเอกชนชายแห่งแรกของประเทศไทย จะครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน 169 ปี นายประพันธ์ ปุษยไพบูลย์ นายกสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย เปิดเผยว่า เนื่องในวันสำคัญของโรงเรียนอันเป็นที่รักยิ่งของทุกคน ในปีนี้ทางสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้ร่วมกับ สมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รวมทั้งคณะครูและนักเรียน ได้ร่วมกันจัดโครงการ “B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคม ต้านภัยโควิด” ในช่วง 30 กย. – 4 ธค.นี้ เพื่อมอบเงิน อาหารและสิ่งของทางการแพทย์ต่างๆ ให้แก่บุคคลากรทางการแพทย์สู้ภัยโควิด 19 ในโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ รพ.ราชวิถี รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ เป็นต้น รวมทั้งการบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิเทพรัตนเวชชานุกูล เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ รพ.เทพรัตนเวชชานุกูล เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ และ รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 11 แห่ง ขอเชิญศิษย์เก่าทุกคนและผู้มีจิตศัทราร่วมบริจาคได้ที่ ธ.กรุงไทยฯ เลขที่บัญชี 660-9-55548-6 ชื่อบัญชี กิจกรรม B.C.C. ครบรอบ 169 ปี ร่วมใจช่วยเหลือสังคมต้านภัยโควิด

จุดเริ่มต้นของ รร.เอกชนต้นแบบแห่งแรกของไทย

          ถ้าจะกล่าวถึงจุดเริ่มต้นระบบการศึกษาไทยหรือสยาม ต้องขอย้อนไปในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งมีแต่เด็กผู้ชายเท่านั้นที่ได้รับโอกาสเรียนหนังสือที่วัด แม้ผู้นำบ้านเมืองเริ่มสนใจจะจัดให้มีโรงเรียนเหมือนประเทศที่เจริญแล้วแต่ก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรเพราะสมัยนั้นไม่มีใครรู้เรื่องการจัดการศึกษาสมัยใหม่ กระทั่ง ค.ศ. 1847 ในปลายรัชการที่ 3 มิชชันนารีชาวอเมริกัน คณะเพรสไบทีเรียน คือศาสนาจารย์ นพ.ซามูเอล เรโนลด์เฮ้าส์ ศาสนาจารย์สตีเฟน แมคตูน และภรรยาเดินทางเข้ามาในประเทศสยาม เพื่อประกาศเรื่องราวความรักของพระเยซูคริสต์ และยังนำวิทยาการใหม่ๆมาด้วยแม้การเดินทางเต็มด้วยความยากลำบากและใช้เวลาถึง 8 เดือน เริ่มแรกท่านมาอาศัยอยู่ที่กุฎีจีนร่วมกับมิชชันนารีคณะอื่นบริเวณปากคลองบางหลวง ต่อมา ค.ศ.1849 จึงได้รับพระบรมราชานุญาตให้เช่าที่ดินบริเวณใกล้วัดอรุณราชวรารามที่เรียกว่า “กุฎีจีน” น.พ.เฮ้าส์และศาสนาจารย์แมตตูนได้จัดตั้งโรงเรียนประจำสำหรับเด็กผู้ชาย เมื่อวันที่ 30 กันยายน ค.ศ.1852 สอนเป็นภาษาจีน ซินแสกีเอ็ง เป็นครูใหญ่ ระยะแรกต้องให้ค่าจ้างเด็กมาเรียนวันละ 1 เฟื้อง

005

          ด้วยความมุ่งมั่นอดทนและความสามารถในทางวิทยาการใหม่ๆ บรรดามิชชั่นนารีจึงได้รับการยอมรับและการสนับสนุนงานทั้งจากชาวบ้าน พระราชวงศ์และข้าราชการรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเจ้านาย 2 พระองค์ คือ เจ้าฟ้าใหญ่ ซึ่งต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าฟ้าน้อย ซึ่งต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว คณะอเมริกันเพรสไบทีเรียนมีความตั้งใจจะหาที่ทำการเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มิชชันนารีอเมริกันที่กุฎฎีจีนซึ่งเป็นชนต่างชาติซื้อที่ดินในประเทศไทยเป็นกรรมสิทธิ์ได้ ใน ค.ศ.1857 จึงได้ซื้อที่ดินและย้ายที่ทำการ รวมทั้งโรงเรียนไปที่สำเหร่ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนสำเหร่บอยส์สกูล”

          ต่อมาเปลี่ยนการสอนเป็นภาษาไทย วิชาที่เปิดสอนมีปรัชญา เลขคณิต ภูมิศาสตร์ การแต่งความ และดาราศาสตร์ ช่วงเวลามีหลายคนสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับมิสซิสแมตตูน มาถึงสมัย ศาสนาจารย์ จอห์น เอ.เอกิ้น โรงเรียนเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนสำเหร่บอยส์คริสเตียนไฮสกูล” เป็นโรงเรียนแบบตะวันตกแห่งแรกในประเทศไทย มีหลักสูตรชัดเจนว่าสอนวิชาอะไรบ้าง มีกำหนดวันเวลาเรียนเป็นตารางสอน มีการสอนโดยครูอาชีพที่รับเงินเดือน และมีระบบการจัดการโรงเรียน จึงแตกต่างจากการศึกษาของไทยที่มีอยู่แต่เดิมซึ่งจัดในวัด วัง หรือบ้าน โรงเรียนคริสเตียนบอยสกูล ดำเนินงานมาด้วยดี และเริ่มพบว่าถึงเวลาที่ต้องขยายกิจการให้กว้างขวางขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ ศาสนาจารย์ จอห์น เอ.เอกิ้น จึงพยายามหาที่ดินแห่งใหม่ในทำเลที่เหมาะสมกับการขยายโรงเรียนในอนาคต ค.ศ.1900 มีการติดต่อขอซื้อที่ดินบริเวณถนนประมวญ สีลม เจ้าของที่ดินคือ เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของศาสนาจารย์จอห์น เอ.เอกิ้น ในราคา 17,000 บาท โดยได้รับความช่วยเหลือจากพระยาสารสิน ศิษย์เก่าของโรงเรียนสำเหร่ในการติดต่อซื้อที่ดินดังกล่าว ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ 20 ชั่ง (ประมาณ 1,600 บาท) รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อีกหลายท่าน รวมทั้งเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีบริจาคให้ 2,500 บาท นอกจากนี้ยังได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาในประเทศสหรัฐอเมริกาอีก 10,000 เหรียญ ค.ศ.1902 จึงได้ย้ายโรงเรียนมาที่ถนนประมวญ ใช้ชื่อ “โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย’’ในที่สุด นับเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่ใช้ระบบการเรียนการสอนแบบสากล พัฒนานักเรียนตามแบบพระเยซูคริสต์ ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และจิตวิญญาณ ในปี ค.ศ. 1913 คณะกรรมการของคณะมิชชันนารีอเมริกันเพรสไบทีเรียนที่สหรัฐอเมริกา  มีมติให้ยกระดับของโรงเรียนไฮสกูล ( High School ) ขึ้นเป็นคอลเลจ (College) ชื่อโรงเรียนจึงได้รับการเปลี่ยนเป็น “กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย” (Bangkok Christian College )  และใช้อักษรย่อว่า BCC ต่อมาในปี ค.ศ. 1920 โรงเรียนได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการให้มีวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาล

004

          เมื่อ ค.ศ.1936 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครั้งทรงยศเป็น พระราชชนนีศรีสังวาลย์ ได้ทรงพระราชทานเงิน 3,000 บาทให้โรงเรียนเพื่อใช้ปรับปรุงยกระดับสนามฟุตบอลโรงเรียนให้สูงขึ้น นอกจากนี้ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ได้ทรงพระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่มิชชันนารีคณะอเมริกันเพรสไบทีเรียนส่งครูชาวต่างประเทศมาสอนในประเทศไทยที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย คืออาจารย์เฮนรี่ เอช.บูเกอร์

          ในวันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดอาคาร จอห์น เอ. เอกิ้น ทรงเยี่ยมชมหอประวัติศาสตร์ ยังความปลื้มปีติแก่ชาวบีซีซีเป็นอย่างยิ่ง

007

169 ปี BCC มุ่งผลิตบุคคลากรที่ดีมีคุณภาพให้ประเทศชาติ

          โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยมี ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติและสังคมไทยจำนวนมาก อาทิ นายพจน์ สารสิน นายอานันท์ ปันยารชุน พลเรือตรี หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ นายสวัสดิ์ วัฒนายากร นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ ศ.ดร.ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์ ศ.พิเศษเรวัต ฉ่ำเฉลิม นายกมล วรรณประภา พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายยศ เอื้อชูเกียรติ พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ พล.อ.อ.อภิสิทธิ์ จุลโมกข์ นายอมเรศ ศิลาอ่อน นายเฉลิม เชี่ยวสกุล นายสุประดิษฐ์ หุตะสิงห์ นายวิทย์ รายนานนท์ นายพิทักษ์ อินทรวิทยนันท์ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ดร.วิจิตร สุพินิจ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ศ.กิตติคุณ ดร.เทียนฉาย กีระนันทน์ ศ.เกียรติคุณ ดร. นพ.พรชัย มาตังคสมบัติ นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ดร.ชวลิต วิทยานนท์ ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ นายณัฐ ยนตรรักษ์ นายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ นายบุญชัย-นายสมชาย เบญจรงคกุล นายอัมรินทร์ สิมะโรจน์ นายกฤษดา สุโกศล แคลปป์ นายโชคชัย บูลกุล นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ นายมนูญ พุฒทอง นายเฉลิมพล โชตินุชิต ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง พล.ร.ต.นพ.ณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ดร.ประดิษฐ์ อารยการกุล เป็นต้น

           นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี  ค.ศ.1852 จนถึงปัจจุบัน โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนให้สมฐานะของโรงเรียนเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดการศึกษาตามระบบนานาอารยประเทศ มุ่งรักษาภาพลักษณ์ของความเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีคุณภาพทางวิชาการชั้นแนวหน้า ส่งเสริมคุณภาพทางกิจกรรมด้านกีฬา ดนตรี และได้สร้างทัศนคติที่ดีและสภาพแวดล้อมที่มีความสุขตลอดมา

ปิดความเห็น บน ชาวกรุงเทพคริสเตียน (BCC) ร่วมใจจัดกิจกรรมช่วยสังคมต้านภัยโควิด ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน BCC 169 ปี รร.เอกชนแห่งแรกของไทย

LINE_ALBUM_ผ้าป่า_210920_7_resize

ชาวหนองคายร่วมใจทอดผ้าป่าพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เพื่อการศึกษาผู้พิการ ว.เทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคายในพระราชูปถัมภ์

Posted on 24 กันยายน 2021 by writer

          ท่ามกลางวิกฤติของโรคระบาดตัวร้ายอย่างโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบไปแทบจะทุกย่อมหญ้า แต่ไม่สามารถทำร้ายน้ำใจคนไทยที่มีต่อกันได้ พิสูจน์ให้เห็นเป็นประจักษ์กับงานทอดผ้าป่าพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อการศึกษาผู้พิการ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคายในพระราชูปถัมภ์ฯ ซึ่งได้รับน้ำใจจากพี่น้องชาวหนองคายและประชาชนคนไทยที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคทุนทรัพย์กว่า 6 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือผู้พิการให้มีการศึกษาได้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ และท่ามกลางของการระบาดในครั้งนี้ ได้เห็นถึงน้ำใจพี่น้องชาวหนองคายที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน ขออนุโมทนาบุญทุกท่านในการทำบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่นี้ กับการจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อการศึกษาเยาวชนผู้พิการ ภายใต้โครงการ “ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ เพื่อการศึกษา การเรียนรู้ศาสตร์ พระราชาเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเป็นทุนการศึกษาพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษาผู้พิการ ให้มีรายได้ มีงานทำ ช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนต่อไป…

LINE_ALBUM_งานผ้าป่า 1_210920_95_resize

          ในการนี้ นายประเสริฐ  ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนช่วยเหลือให้มีการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีพระราชทานของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการภายใต้โครงการ“ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจเพื่อการศึกษา การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาเศรษฐกิจพอเพียง” ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในครั้งนี้ให้ผ่านไปด้วยดี ทั้งนี้รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตรสำหรับถวายพระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคายและรักษาการเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย ประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาในครั้งนี้ อันนำมาซึ่งความปลื้มปิติให้คณะกรรมการผู้จัดงานและประชาชนชาวจังหวัดหนองคาย ซึ่งงานนี้ได้รับความสนใจจากพี่น้องชาวหนองคายเป็นอย่างมาก

          ส่วนทางด้าน ผอ. วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ นางสาวสัมฤทธิ์ ศิริรัมย์ กล่าวเสริมถึงการจัดงานทอดผ้าป่าพระราชทานฯ ในครั้งนี้เพื่อ 1.) จัดตั้งศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจเพื่อการศึกษา การเรียนรู้ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีฯ เพื่อประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาดูงาน เป็น

LINE_ALBUM_20092021_210920_143_resize

          สถานศึกษาระดับอาชีวะสำหรับคนพิการแห่งแรกของภาคอีสาน 2.) พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ในวิทยาลัยฯให้สวยงามและเหมาะสมกับผู้พิการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3.) เป็นทุนการศึกษาพัฒนาศักยภาพ นักเรียน นักศึกษา ให้ทุกคนได้กินอิ่มนอนอุ่น ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ได้เรียนจนจบ ปวช. และปวส. 3-5 ปี แล้วมีงานทำ ช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

          วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นสถานศึกษาสำหรับคนพิการแห่งแรกของภาคอีสาน ตั้งอยู่จังหวัดหนองคาย เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้คนพิการมีวุฒิการศึกษา รวมทั้งฝึกวิชาชีพให้แก่คนพิการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศเพื่อนบ้านในแถบลุ่มแม่น้ำโขง วิทยาลัยฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553  โดยเริ่มจากการจัดฝึกอบรมให้กับนักศึกษาผู้พิการ ต่อมาจึงได้รับอนุญาตให้เปิดเป็นสถานฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560

LINE_ALBUM_งานผ้าป่า 1_210920_167_resize

          สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2563

          การดำเนินงานของวิทยาลัยฯ เป็นโรงเรียนประจำมีหอพักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ พร้อมอาหาร 3 มื้อ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เป็นสื่อทันสมัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ  ปัจจุบันวิทยาลัยมีนักศึกษาพิการที่อยู่ในความดูแลกว่า 60 คน ตลอดระยะเวลากว่า 11 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ สามารถผลิตแรงงานคนพิการไปเป็นบุคลากรระดับมืออาชีพเพื่อทำงานรับใช้สังคมมาแล้วกว่า 628 คน

LINE_ALBUM_ผ้าป่า_210920_7_resize

          สำหรับท่านที่ต้องการช่วยเหลือผู้พิการยังสามารถร่วมบริจาคได้ตามกำลังศรัทธาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ หรือโอนเงินเข้าบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการธ.กรุงเทพ สาขาบางละมุง บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 342-3-04294-8 นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ หรือสอบถามที่ โทรศัพท์ 081 723 5949 อีเมล์ ajima@mahatai.org  เพื่อช่วยคนพิการไทยได้รับการศึกษา ร่วมต้านภัยโควิดไปด้วยกัน

          งานทอดผ้าป่าสามัคคี….  นับเป็นการยกย่องจิตใจของผู้บริจาคที่มีการเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม พร้อมทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีธรรมของหมู่คณะ และส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนมีความมั่นคงเป็นปึกแผ่นรักสมานสามัคคีกันอีกด้วย….

ปิดความเห็น บน ชาวหนองคายร่วมใจทอดผ้าป่าพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เพื่อการศึกษาผู้พิการ ว.เทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคายในพระราชูปถัมภ์

สัมมนาออนไลน์ ฟรี “เทคโนโลยีการศึกษาและความปลอดภัยทางดิจิทัล”

สัมมนาออนไลน์ ฟรี “เทคโนโลยีการศึกษาและความปลอดภัยทางดิจิทัล”

Posted on 21 กันยายน 2021 by writer

SEAMEO-NZ Masterclass_Revised_resize

          หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand; ENZ) ร่วมกับ สํานักงานเลขาธิการองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Ministers of Education Organization Secretariat : SEAMEO Secretariat) ขอเชิญผู้อำนวยการสถานศึกษา นักการศึกษา นักวิจัย คุณครู อาจารย์จากสถาบันและมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ ฟรี  SEAMEO-New Zealand Master Class ในหัวข้อ “Education Technology and Digital Security” เพื่อนำเสนอข้อมูลโซลูชั่นที่ทันสมัยทางด้านเทคโนโลยีการศึกษาและความปลอดภัยทางดิจิทัลจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากประเทศนิวซีแลนด์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจัดขึ้นผ่านการถ่ายทอดสด ในวันที่ 30 กันยายน 2564 เวลา 09.00-11.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

          – ยกระดับทักษะการพัฒนาศักยภาพครูโดยใช้เทคโนโลยีการศึกษาและความปลอดภัยดิจิทัล

          – ขยายมุมมองเรื่อง Technology Disruption ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตโควิด

          – พัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตในการเข้าใกล้เทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ

          ลงทะเบียนล่วงหน้าได้วันนี้ถึงวันที่ 25 ก.ย. 2021 ได้ที่  https://link.seameo.org/MasterClass-Reg/20210930 (โดยไม่มีค่าใช้จ่าย) รับชมทาง Live สดผ่านช่อง SEAMEO Secretariat YouTube โดยผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานสามารถรับชมได้ที่นี่ https://link.seameo.org/MasterClass/20210930

ผู้ร่วมงานจะได้รับ E-Certificate of Participation โดยจะออกให้กับผู้เข้าร่วมที่กรอกแบบฟอร์มยืนยันเมื่อสิ้นสุดงาน รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  https://www.seameo.org/Main_programme/296

ปิดความเห็น บน สัมมนาออนไลน์ ฟรี “เทคโนโลยีการศึกษาและความปลอดภัยทางดิจิทัล”

“มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ” จับมือ 4 องค์กรเร่งตรวจ-คัดกรองหาเชื้อแบบ RT PCR พร้อมจัดหาที่พักคอยรองรับผู้พิการติดเชื้อโควิด-19 ณ มูลนิธิฯ จ.ชลบุรี

“มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ” จับมือ 4 องค์กรเร่งตรวจ-คัดกรองหาเชื้อแบบ RT PCR พร้อมจัดหาที่พักคอยรองรับผู้พิการติดเชื้อโควิด-19 ณ มูลนิธิฯ จ.ชลบุรี

Posted on 16 กันยายน 2021 by writer

          มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ จับมือ 4 องค์กร ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสาธารณสุข นำโดยคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 6 ชลบุรี, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลบางละมุง พร้อมเร่งตรวจ – คัดกรองหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT PCR ทั้งกลุ่มคนพิการและครอบครัวในพื้นที่บางละมุง กว่า 600 ราย พร้อมจัดหาที่พักคอยรองรับผู้พิการติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 100 ห้อง ณ มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ จ.ชลบุรี

ตรวจ-คัดกรอง2_resize

           นายสัมฤทธิ์ ชาภิรมย์ ผู้จัดการมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศยังไม่คลี่คลาย และพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มคนด้อยโอกาสและยากจนเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นมูลนิธิฯ จึงได้ร่วมกับ 4 องค์กร พันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสาธารณสุข คือ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 6 ชลบุรี, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี และโรงพยาบาลบางละมุง เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในการร่วมดูแลผู้พิการที่ติดเชื้อ โควิด-19 โดยคัดกรองหาเชื้อโควิดแบบ RT PCR ทั้งกลุ่มคนพิการและครอบครัวในพื้นที่บางละมุงจำนวน 622 ราย และในช่วงระหว่างรอผลตรวจฯ มีที่พักซึ่งมูลนิธิฯ จัดเตรียมไว้ให้ หากผลRT PCR เป็นบวก จะถูกนำตัวเข้าศูนย์พักคอย Community Isolation (CI)  ในมูลนิธิฯ

ตรวจ-คัดกรอง5_resize

          โดยที่พักคอยสำหรับกักตัวและรับการดูแลทางการแพทย์ ที่ทางมูลนิธิฯได้จัดเตรียมไว้นั้นได้ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ห้องผู้พิการที่ใช้วีลแชร์ จำนวน 60 ห้อง  และห้องผู้พิการที่เดินได้ จำนวน 60 ห้อง ในส่วนของบุคลากรของมูลนิธิฯ เองก็ได้จัดเตรียม Community Isolation สำหรับรองรับในกรณีที่บุคลากรหรือนักเรียนติดโควิดโดยใช้พื้นที่ชั้น 5 ของอาคารพักนักเรียน สามารถรองรับได้ประมาณ 50-60 คนทั้งนี้ยังได้มีการอบรมให้ความรู้และตรวจคัดกรองโควิด-19แบบ RT PCR แก่บุคลากรและครอบครัวฯ พร้อมจัดห้องพักสำหรับกักตัวและเข้าสู่ระบบการดูแลของโรงพยาบาล แต่ถ้าพบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 20 คน โรงพยาบาลจะดูแล แต่หากมากกว่านั้นก็จะเข้าศูนย์พักคอย Community Isolation (CI) ในมูลนิธิฯ ต่อไป

ตรวจ-คัดกรอง1_resize

          ทั้งนี้ สำหรับผู้พิการที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถใช้โทรสายด่วน 1479 คนพิการประชารัฐ ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. หรือรายละเอียดที่ www.1479hotline.org  เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถช่วยบริจาคเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 นำใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โทร. 02-5724042 ต่อ 8100 มือถือ 099-3944795

ปิดความเห็น บน “มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ” จับมือ 4 องค์กรเร่งตรวจ-คัดกรองหาเชื้อแบบ RT PCR พร้อมจัดหาที่พักคอยรองรับผู้พิการติดเชื้อโควิด-19 ณ มูลนิธิฯ จ.ชลบุรี

ครูนิวซีแลนด์ผู้เชี่ยวชาญแนะเทคนิคสอนภาษาอังกฤษ Online อย่างไรให้ได้ผล

ครูนิวซีแลนด์ผู้เชี่ยวชาญแนะเทคนิคสอนภาษาอังกฤษ Online อย่างไรให้ได้ผล

Posted on 13 กันยายน 2021 by writer

study online_resize_resize

          ช่วงนี้น้องๆนักเรียนต้องเรียนออนไลน์กันทั้งวันยาวๆกันไปอีกระยะ เพราะด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่อย่างรวดเร็วมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้การเรียนการสอนสามารถทำได้เฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น อาจทำให้หลายคนเบื่อไม่อยากเรียนทีจะต้องนั่งเรียนอยู่กับหน้าจอทั้งวัน ในช่วงแรกๆ อาจต้องมีการปรับตัวกันอยู่บ้าง เพื่อให้การเรียนการสอนออนไลน์ประสบความสำเร็จและไม่น่าเบื่อ ส่งผลให้การเรียนได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดี

Erina Hunt_01_resize

          อาจารย์เอริน่า ฮันท์ (Ms. Erina Hunt) ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบผสมผสานผ่านระบบออนไลน์ (Online Blended English Language Programmes Coordinator) จากมหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ ให้คำแนะนำว่า การสอนออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป หากครูสอนภาษาอังกฤษได้มีโอกาสเปิดสอนชั้นเรียนออนไลน์ การควบคุมระยะเวลาในการสอนชั้นเรียนออนไลน์ควรไม่เกิน 50 นาที เพราะช่วงระยะเวลาเท่านี้ ผู้เรียนยังมีสมาธิจดจ่อกับการเรียนภาษาอยู่ และต้องมีมาตรการที่ชัดเจน เช่น ปิดเสียงไมโครโฟนเสมอตลอดการเรียนการสอน ยกเว้นต้องการจะพูด เปิดวิดีโอ นั่ง และแต่งตัวเหมือนอยู่ในห้องเรียน (ไม่ได้อยู่บนเตียง) เปิดหน้าจอให้เห็นหน้าของผู้พูด ฯลฯ สำหรับตัวครูผู้สอนควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้พูดคุย และมีโอกาสที่ได้ถาม-ตอบอย่างเท่าเทียมกันทุกคน หากครูท่านใดใช้แอปพลิเคชั่น “Zoom” ฟังก์ชั่น “การสำรวจ (Poll)” มีประโยชน์มาก ในการครูจะสามารถประเมินว่านักเรียนสามารถจัดการกับเนื้อหา ได้อย่างไรหรือรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่จากกลุ่มผู้เรียนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้การเปลี่ยนวิธีการนำเสนอบทเรียนบนชั้นเรียนออนไลน์ด้วยการใช้คลิปวิดีโอแทน หรือการทำงานกลุ่ม ทำแบบทดสอบร่วมกันทั้งชั้นเรียนจะช่วยให้ชั้นเรียนมีการเคลื่อนไหว ไม่นั่งนิ่งน่าเบื่อ

          อย่างไรก็ตาม อ.ฮันท์ ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า จากการเก็บข้อมูล ค้นคว้า และศึกษาเกี่ยวกับโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบผสมผสาน เธอพบว่า ระยะเวลาเหมาะสมในการเรียนภาษาอังกฤษ โดยผู้เรียนมีความกระตือรือร้นเสมอในการเรียนรู้และไม่ลืมบทเรียนเก่า คือ การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง โดยมีอาจารย์หนึ่งท่านให้ความคิดเห็นแนะนำข้อควรปรับปรุงทักษะภาษาอังกฤษด้านต่าง ๆ สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ควบคู่ไปกับการเรียนออนไลน์แบบเห็นหน้าผู้สอนและผู้เรียน (ไม่นับเวลาที่คุยกันนอกชั้นเรียนออนไลน์) สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ทำเช่นนี้นานมากกว่า 16 สัปดาห์ พบว่า ผู้เรียนภาษาอังกฤษมีพัฒนาการทางด้านภาษาในทุกทักษะ ตลอดจนระดับความมั่นใจในการใช้ภาษาที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเร็วในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของแต่ละคน ที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับแรงจูงใจที่ทำให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้ภาษานั้นๆ ความมีวินัยต่อตนเองของนักเรียน และสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วย

ENZ Webinar NZ Partners Week 2021 updated 3 June - Erina_Page_04_01_resi..._resize

          นอกจากนี้ อ.ฮันท์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงานและอยากเก่งภาษาอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข ตัวเลขที่มากขึ้น ไม่ได้ส่งผลต่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษแต่อย่างใด แต่ที่ทุกคนรู้สึกว่า คนที่อายุน้อยยังเด็กหรือวัยหนุ่มสาว สามารถเรียนรู้ได้ดีกว่า นั่นก็เพราะว่า พวกเขามีแรงจูงใจมากกว่า ขณะที่ผู้เรียนภาษาที่โตแล้วจะเข้าใจกระบวนการการเรียนรู้และมีทักษะการจัดการเวลาที่มากกว่า และด้วยประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่า ก็ทำให้ผู้เรียนที่โตกว่า มีความมั่นใจในการพูด กล้าคิด กล้าถาม หากผู้เรียนทั้งสองวัยได้มาเรียนด้วยกัน จะสามารถแบ่งปันข้อดีของกันและกันได้

          ทั้งนี้ นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลาง และได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศผู้นำด้านนวัตกรรมการศึกษาและเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเรียนรู้ อีกทั้งยังมีชื่อเสียงในการเสริมสร้างนักเรียนสู่ทักษะในอนาคต โดยได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 จากประเทศที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในด้านการจัดการศึกษาได้ดีที่สุดในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต จากการจัดอันดับของ Worldwide Educating for the Future Index 2019 โดย The Economist Intelligence Unit

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ดูได้ที่ www.studyinnewzealand.govt.nz

ปิดความเห็น บน ครูนิวซีแลนด์ผู้เชี่ยวชาญแนะเทคนิคสอนภาษาอังกฤษ Online อย่างไรให้ได้ผล

เซเลปสายบุญ ชวนร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีพระราชทาน เพื่อการศึกษาของเด็กพิการ

เซเลปสายบุญ ชวนร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีพระราชทาน เพื่อการศึกษาของเด็กพิการ

Posted on 06 กันยายน 2021 by writer

ช่วงสถานการณ์ระบาดโควิด 19 ระลอกใหม่นี้ทุกคนต่างลำบากโดยเฉพาะผู้พิการเซเลบริตี้อย่าง ยุ้ย – ณพอาภา เทวกุล ณ อยุธยา พร้อมมิ้งค์ – ณัฏฐิ์ประภา ชุณหะวัณ ชวนเพื่อนๆสายบุญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อการศึกษาเด็กพิการ ของวิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ฯ ในวันจันทร์ที่ 20 กันยายน 2564 เวลา 08.08 น.

มิ้งค์ยุ้ย3_resize

ทั้งนี้ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ หนองคาย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นสถานศึกษาสำหรับคนพิการแห่งแรก! ของภาคอีสาน เป็นสถานฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับคนพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกายทั้งระดับ ปวช. ปวส. สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และหลักสูตรระยะสั้นคือหลักสูตรเบเกอรี่ และ หลักสูตรช่างวีลแชร์ โดยทุนการศึกษานี้จะช่วยให้เยาวชนผู้พิการได้ศึกษาจนจบระดับ ปวช. – ปวส. และช่วยให้มีงานทำ ช่วยเหลือตัวเอง-ครอบครัวได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาให้คนพิการมีวุฒิการศึกษา รวมทั้งฝึกวิชาชีพให้แก่คนพิการในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศเพื่อนบ้านในแถบลุ่มแม่น้ำโขง วิทยาลัยฯ เป็นโรงเรียนประจำ มีหอพักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ พร้อมอาหาร 3 มื้อ รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เป็นสื่อทันสมัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ…

9BBA119-6919A24-4E1CFAC

ท่านสามารถร่วมบริจาคโดยโอนเงินเข้าชื่อบัญชี มูลนิธิพระมาหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง เลขที่บัญชี 342-3-04294-8 ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 081 -723- 5949  อีเมล์ ajima@mahatai.org

ปิดความเห็น บน เซเลปสายบุญ ชวนร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีพระราชทาน เพื่อการศึกษาของเด็กพิการ

กันยายน 2021
พฤ อา
« ส.ค.   ต.ค. »
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930  

RELATED SITES