ASD Distribution เปิดตัว ซันแนล (Sunell) กล้องอัจฉริยะระบบจดจำ ตรวจจับใบหน้า Face Intelligent Recognition ด้วย AI รับเทรนด์เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยบูม

              บริษัท เอเอสดี ดิสทริบิวชั่น จำกัด ชี้กระแสกล้องระบบจดจำและตรวจจับใบหน้าด้วย AI กำลังเป็นเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยที่ทั่วโลกให้ความสนใจ แนะนำ ซันแนล (Sunell) กล้องอัจฉริยะระบบจดจำตรวจจับใบหน้าด้วย AI เพราะสามารถป้องกัน และรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง แถมยังสามารถประมวลผลแบบ เรียลไทม์ และมีฟังก์ชั่นที่สามารถนำข้อมูลที่ประมวลผลได้ไปต่อยอดสนับสนุนการวางแผนการตลาดได้อีกด้วย

            นายสุนทร ทองมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอสดี ดิสทริบิวชั่น จำกัด (ASD Distribution) เปิดเผยว่า ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความท้าทายให้กับนักธุรกิจผู้ประกอบการไม่น้อย โดยเฉพาะระบบรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก ล่าสุดกับ ซันแนล (Sunell) กล้องอัจฉริยะ ระบบจดจำ ตรวจจับใบหน้าด้วย Face Intelligent Recognition ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับในประเทศไทย เป็นเทรนด์ใหม่ของการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่หวงห้ามต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพสูง และสามารถประมวลผลแบบเรียลไทม์ รวมทั้งยังมีฟังก์ชั่นด้านการระบุเวลาเข้าออกด้วยการแสกนใบหน้า ประมวลผลเพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์การจัดการตลาดในด้านการจัดโปรโมชั่น และสต๊อกสินค้าได้อีกด้วย กล้องอัจฉริยะนี้มีแนวโน้มที่ดีและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

การทำงานของ ซันแนล (Sunell) กล้องอัจฉริยะ ระบบจดจำ ตรวจจับใบหน้าด้วย Face Intelligent Recognition แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1.ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection) กระบวนการค้นหาใบหน้าของบุคคลจากภาพหรือวีดีโอ จากนั้นจะทำการประมวลภาพใบหน้าที่ได้ทำให้ง่ายต่อการจำแนก เช่น เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย รหัสอะไร เป็นต้น

2.ระบบตรวจจับใบหน้า (Face Recognition) นำภาพใบหน้าที่กล้องแคปเจอร์ได้จากคนที่เดินผ่านกล้อง มาเปรียบเทียบกับภาพใบหน้าในฐานข้อมูลที่บันทึกไว้ เพื่อประมวลผล มาเปรียบเทียบกับภาพในฐานข้อมูล ว่าตรงกับบุคคลใด โดยสามารถตั้งได้ว่าเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาต หรือเป็นบุคคลต้องห้ามก็ได้ สามารถนำฟังก์ชั่นนี้ไปใช้ประโยชน์ได้ใน 3 รูปแบบหลักๆ ได้แก่

• ตรวจสอบการเข้าออกสถานที่ (Time Attendance) เช่น หากเราบันทึกใบหน้าสมาชิกในฐานข้อมูลพร้อมระบุข้อมูลประจำตัวในระบบแล้ว เมื่อกล้องจับภาพใบหน้าแล้วเปรียบเทียบก็จะขึ้นชื่อและรายละเอียดที่บันทึกไว้ของบุคคลนั้น เช่น ชื่อ และรหัสประจำตัว รวมทั้งสามารถบันทึกเวลาเข้า และออกจากสถานที่ไปพร้อมกันได้อีกด้วย ช่วยลดเวลา และขั้นตอนในการตอกบัตร หรือเซ็นชื่อเข้าออก เหมาะกับออฟฟิศ หน่วยงานราชการ โรงเรียน เป็นต้น

• ตรวจจับคนร้าย หรือบุคคลต้องห้าม (Black List) เราสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ในฐานข้อมูล และเมื่อกล้องสามารถจับใบหน้าที่บันทึกไว้ได้ ก็จะแจ้งเตือนทันทีว่าบุคคลต้องห้ามกำลังเข้ามาในพื้นที่ ทำให้สามารถป้องกันเหตุร้าย และรักษาความปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที เหมาะสำหรับพื้นที่สาธารณะที่มีคนเป็นจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ เป็นต้น

• การระบุสิทธิในการเข้าพื้นที่หวงห้าม (White List) เราสามารถบันทึกบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามได้ เช่น สต็อกสินค้า แผนกบัญชี ห้องควบคุมระบบต่างๆ เป็นต้น เมื่อกล้องจับภาพใบหน้าบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลพยายามเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ระบบก็จะแจ้งเตือนถึงผู้บุกรุกแบบเรียลไทม์ทันที

                นอกจากนี้ยังสามารถเอาข้อมูลที่ได้จากกล้องระบบจดจำและตรวจจับใบหน้าด้วย AI มาต่อยอดวิเคราะห์เพื่อใช้วางแผนกิจกรรมทางการตลาดได้หลายรูปแบบ เช่น วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ระยะเวลาที่ลูกค้าอยู่ในร้าน รวมถึงการใช้เวลาที่ชั้นวางสินค้า ก็สามารถนำไปวิเคราะห์ออกมาเป็นสถิติได้ (Big Data Management) เพื่อช่วยเป็นข้อมูลในการจัดแคมเปญโปรโมชั่น ช่วยในเรื่องของการวางแผนสต็อกจากความสนใจของลูกค้าได้ ช่วยให้การบริหารจัดการสินค้าในร้านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น “ตัวอย่างหน่วยงานที่ติดตั้ง ซันแนล (Sunell) กล้องอัจฉริยะ ระบบจดจำและตรวจจับใบหน้าด้วย AI ได้แก่ ด่านตรวจคนเข้าเมือง สนามบิน ท่ารถต่างๆ ออฟฟิศต่างๆ โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านเพชร หรือในพื้นที่ที่ต้องการการรักษาความปลอดภัยที่สูง ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม นัดชมการสาธิต หรือสั่งซื้อได้แล้ววันนี้ ที่บริษัทเอเอสดี ดิสทริบิวชั่น จำกัด (ASD Distribution) เว็บไซต์ www.asd.co.th หรือ LINE ID: @asd.co.th หรือ Tel:02-451-1055″ นายสุนทร กล่าวในท้ายสุด

          บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)  ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ทีโพล์” ประกาศเดินหน้าบุกตลาดองค์กรบีทูบี (Business–to–Business) สุดยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าฯ “Total Solution Providers” ภายใน 3 ปี สร้างโซลูชั่นตอบรับความต้องการทุกกลุ่มธุรกิจ อย่างครบวงจรบริการทั้งในด้าน ความสะดวก – รวดเร็ว – ปลอดภัย ฯลฯ ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่าง โดยมีบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญในการทำงานร่วมกับคู่ค้า นำเสนอสิ่งแปลกใหม่ – ประโยชน์ในเชิงคุณภาพ และคุณค่า โดยตั้งเป้าเติบโต 100 %  ในสิ้นปีนี้ (2019)

          นายวัชระ  สุวัฒน์วรพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า จากความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดธุรกิจรูปแบบใหม่  พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวทางการบริหารธุรกิจที่มีอยู่เดิม จึงส่งผลให้หลายๆองค์กรมีการเปลี่ยนแปลง  ดังนั้น  “เชอร์วู้ด” เป็นหนึ่งองค์กรที่มองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจเพื่อรองรับฐานลูกค้าใหม่

          ล่าสุด บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจต่อเนื่องเดินหน้าบุกตลาดองค์กรบีทูบี (Business–to–Business) สุดยิ่งใหญ่ ขยายฐานลูกค้าองค์กรซึ่งเป็นการทำตลาดระหว่างองค์กรกับองค์กร ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่าง โดยในปีนี้พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ คือ บริษัท ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น ประเทศไทย (จำกัด) มหาชน ที่มีความเชี่ยวชาญในกลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน

          โดยขณะนี้บริษัทฯ ได้มีการทำตลาด สินค้ากลุ่ม Institutional ต่างๆ ทั้งน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป น้ำยาดูแลพื้น และคาดว่าจะมีสินค้ากลุ่มอื่นๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ การทำความสะอาดและสุขอนามัย ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมอาทิ กลุ่มลูกค้าโรงแรม สำนักงาน งานสาธารณสุข โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และในอนาคตจะพัฒนาไปถึงกลุ่มโรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ เป็นต้น

          ในปีนี้ บริษัท ทีโพล์ โปรเฟสชั่นแนล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดได้วางกลยุทธ์และแผนการตลาด โดยมุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพ ประกอบกับการมีผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม รวมถึงพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องพร้อมผสานกลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน สินค้าและบริการใช้งานง่าย – มีประสิทธิภาพที่ดี ด้วยต้นทุนการใช้งานที่เหมาะสมและยังสามารถติดตามการใช้งานสินค้าได้อย่าง Real time โดยตั้งเป้าหมายไว้ 3 ปีจะเป็น “Total Solution Providers” (ผู้ให้บริการโซลูชั่นทั้งหมด) โดยมีแผนธุรกิจ 3 ระยะ คือ ระยะที่1 : เน้นการพัฒนาสินค้า บริการและช่องทางการจำหน่ายใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ใช้งานและเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าและบริการ ระยะที่2 : นำเทคโนโลยีต่างๆมาประยุกต์ใช้งานและทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ เพื่อประโยชน์ในเชิงคุณภาพและคุณค่า ระยะที่3 : ขยายธุรกิจครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปีนี้ (2019) ตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 100%

          “กลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมากจึงได้คิดค้นและออกแบบโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กร สนับสนุนการทำงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนาความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆภายในองค์กรคู่ค้า และการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้องค์กรเหล่านั้นโดดเด่นเหนือคู่แข่งและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจสินค้าเคมีภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย บริษัทฯเชื่อมั่นว่าสินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพจะได้รับการตอบรับและความไว้วางใจในการร่วมเป็นคู่ค้าพันธมิตรได้อย่างไม่ยากนัก” รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวท้ายที่สุด