Posted on 24 มิถุนายน 2019 by writer
เพราะหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของสมองและร่างกายที่แข็งแรง คือ อาหารที่มีประโยชน์อาหารที่เราเลือกรับประทานเข้าไปจะส่งผลต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ดังนั้นนักกำหนดอาหารจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำว่าเราควรรับประทานอาหารประเภทใด เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย รวมทั้งเพื่อป้องกันการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่อาจจะเกิดกับร่างกายได้
เมื่อเร็วๆ นี้ สมาคมนักกำหนดอาหารจัดงานประชุมวิชาการประจำปี 2562 เรื่อง “ความร่วมมือของเครือข่ายนักกำหนดอาหารในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค” เพื่ออัพเดทข้อมูล และนำเสนองานวิจัยใหม่ เพื่อยกระดับความรู้ของวงการนักกำหนดอาหารในประเทศไทย ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่ได้รับความสนใจจากนักกำหนดอาหารที่เข้าร่วมประชุมกว่า 800 คนเป็นอย่างมาก คือการนำเสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับ “เปปไทด์จากไก่ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองในด้านความคิดและการจดจำ” ณ ห้องเมย์แฟร์ แกรนด์ บอลรูม โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ
อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ (สหรัฐอเมริกา) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการวิจัยทางคลีนิกที่น่าสนใจในหัวข้อ “เปปไทด์จากไก่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองในด้านความคิดและการจดจำ” ซึ่งเปปไทด์จากไก่ เป็น เปปไทด์โมเลกุลเล็กที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ในทันที การศึกษาล่าสุดซึ่งเป็นการวิจัยทางคลีนิกแบบสุ่ม ในกลุ่มอาสาสมัครสุขภาพดี ถึงผลของเปปไทด์จากไก่ ต่อความจำระยะสั้น ความจำขณะทำงาน และความตั้งใจ โดยพบว่ากลุ่มทดลองที่ดื่มซุปไก่สกัด ซึ่งเป็นเปปไทด์จากไก่ และกลุ่มควบคุมซึ่งดื่มซุปไก่หลอก (โปรตีนสกัดจากปลา) เป็นประจำทุกวันต่อเนื่องกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่าซุปไก่สกัดช่วยเพิ่มประสิทธิผลการทำงานของสมองในด้านความจำ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภาวะเครียดในระดับปานกลางและสูงได้ดี ซึ่งจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในส่วนของความจำระยะสั้นดีขึ้นเมื่อครบสัปดาห์แรกของการทดลอง กล่าวโดยสรุปได้ว่าซุปไก่สกัดมีผลช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองในด้านความจำและมีผลช่วยเพิ่มความจำระยะสั้นในกลุ่มผู้ใหญ่ คนวัยทำงานที่มีภาวะเครียดจากใช้ชีวิตประจำวันได้ดี
นอกจากนี้ยังมีผลการวิจัยในระดับนานาชาติมากมายที่พบว่า ซุปไก่สกัดหรือเปปไทด์จากไก่ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารฟังก์ชั่นที่ช่วยบำรุงสมอง สามารถช่วยเพิ่มคลื่นสมองแบบอัลฟ่าที่ช่วยเรื่องสมาธิ และยังช่วยเพิ่มออกซิเจนไปเลี้ยงสมองส่วนหน้า ซึ่งทำงานเกี่ยวข้องกับความคิด ความจำให้ทำงานดีขึ้นจึงช่วยลดความเหนื่อยล้าของสมองจากการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และความจำ นอกจากนี้ ซุปไก่สกัดยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมและคุณภาพของน้ำนมของคุณแม่ตั้งครรภ์ อีกด้วย
เพราะอาหารไม่ใช่กินให้หายหิวเท่านั้น แต่การกินควรคำนึงถึงคุณค่าสารอาหารและประโยชน์ที่จะได้รับเป็นสิ่งสำคัญ ดังคำพูดของบิดาทางการแพทย์ของชาวกรีกล่าวไว้ว่า “จงใช้อาหารเป็นยารักษาโรค”หากเรารู้จักเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยส่งเสริมความสามารถของสมอง ก็จะช่วยให้เราใช้สมองได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังสามารถป้องกันความเสื่อมที่เกิดกับสมองได้อีกด้วย
Posted on 24 มิถุนายน 2019 by writer
โรคมะเร็งเป็นภัยเงียบ คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับ1 ถึง 70,000 คนต่อปี หรือเกือบ 200 คนต่อวัน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 8 ราย การรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และการเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็วจะทำให้มีโอกาสรอดชีวิตสูง ดังนั้น “มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” ชวนคนไทยทั่วประเทศผนึกกำลังเป็น “ทีมราชวิถี ซูเปอร์ฮีโร่ พิชิตมะเร็ง” สานต่อพลังบุญ ต่อชีวิตผู้ป่วยมะเร็ง ร่วมบริจาคสมทบกองทุนพิชิตมะเร็ง มูลนิธิรพ.ราชวิถีโดยมีเหล่าศิลปิน ดารา – นักร้องใจบุญทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กเข้าร่วมทีม ซูเปอร์ฮีโร่กว่า 80 คน พร้อมเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ให้กับโครงการฯ อาทิ คุณสมบัติ เมทะนี, คุณรอง เค้ามูลคดี , คุณดาวใจ ไพจิตร, คุณตุ๊ก วิยะดา, คุณวาววา –ณิชารีย์ , คุณศิริลักษณ์ ผ่องโชค, คุณกรุง ศรีวิไล , คุณวินัย พันธุรักษ์,คุณปราโมทย์ วิเลปะนะ เป็นต้น โดยภายในงาน ยังมีการเสวนาแนวทางพิชิตมะเร็ง “มะเร็งศีรษะ-คอมะเร็งที่ถูกมองข้าม และมะเร็งน่าห่วงในสตรีไทยยุคใหม่” โดย นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี นพ.ณัฐ นิยมอุดมวัฒนา แพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก และผศ.พิเศษ.พญ.อรัญญา ยันตพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวช รพ.ราชวิถี พร้อมประสบการณ์จริงจากผู้ป่วยมะเร็งด้วย
นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยว่า โรคมะเร็งเป็นภัยเงียบ คร่าชีวิตคนไทยมากเป็นอันดับ 1 และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยในส่วนโรงพยาบาลราชวิถี ได้ดูแลรักษาป่วยมะเร็งจากทั่วประเทศ ทั้งในส่วนผู้ป่วยของรพ.เอง และผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลอื่น โรงพยาบาลราชวิถีมีศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งอย่างครบวงจร ทั้งการฉายแสง เคมีบำบัด รวมทั้งการผ่าตัด ครอบคลุมมะเร็งในทุกด้าน เช่น มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งนรีเวช มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น
ในปี 2561 ที่ผ่านมา รพ.ราชวิถี รักษาผู้ป่วยมะเร็งมากถึง 15,670 คน หรือเฉลี่ยวันละ 43 คน เป็นผู้ป่วยมะเร็งที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศปีละ 10,250 คน หรือเฉลี่ยวันละ 28 คน แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ บุคลากรทางการแพทย์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งที่จำเป็นต้องรักษาอาจต้องรอคิวการรักษายาวนานซึ่งการรอเพื่อรับการรักษาในผู้ป่วยโรคมะเร็งเหล่านี้ เป็นปัญหาสำคัญ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาเร็วโอกาสที่จะหายและสามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติจะมีมากขึ้น
ดังนั้นมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถี ได้ก่อตั้งโครงการ “ทีมราชวิถี ซูเปอร์ฮีโร่ พิชิตมะเร็ง” ขึ้น เพื่อสนับสนุนให้เกิดการรักษามะเร็งที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และส่งเสริมดำเนินงานของโรงพยาบาลราชวิถี ในด้านการบริการผู้ป่วยตลอดจนงานด้านการศึกษาวิจัย ค้นคว้าทางวิชาการในด้านการรักษาผู้ป่วยมะเร็งซึ่งการพิชิตมะเร็ง หากรู้เร็ว และรักษาได้ไว โอกาสมีชีวิตรอดก็สูง การรักษามะเร็งมีค่อนข้างสูง การระดมทุนในการทำกิจกรรมส่งเสริมครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัยให้เพียงพอ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากจะได้ไม่ต้องรอรักษานาน
โครงการฯ จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งเพื่อรณรงค์ ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับทีมซูเปอร์ฮีโร่ พิชิตมะเร็ง พร้อมเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์โครงการให้มีผู้ร่วมบริจาคสมทบ “กองทุนพิชิตมะเร็ง มูลนิธิ รพ.ราชวิถี” ในการนำไปรักษาผู้ป่วยมะเร็ง
ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับแคมเปญ“กองทุนพิชิตมะเร็ง มูลนิธิรพ.ราชวิถี” โดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี “มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” หมายเลขบัญชี 0512163221 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี หรือ สอบถามโทร 02-3547997-9หรือ www.rajavithifondation.com มาร่วมต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่รอโอกาสทางการรักษา