“สงกรานต์” นับเป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุทางถนนและยอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดช่วงหนึ่ง มีรายงานสถิติจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ) ในช่วง 7วันอันตราย เมื่อปีที่ผ่านมา(2561) จะเห็นว่าอุบัติเหตุ เสียชีวิต และบาดเจ็บ เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านๆมา อุบัติเหตุ 3,724 ครั้ง เสียชีวิต  418 ราย บาดเจ็บ 3,897 คน หรือโดยเฉลี่ยเสียชีวิตในช่วงนี้ปีละ 400 ราย จะเห็นว่าทั้งอุบัติเหตุ ที่ทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ มีเพิ่มขึ้นทุกปีและปีนี้ (2562) คาดว่าจะมีแนวโน้มการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยสาเหตุหลักมาจากพฤติกรมการขับขี่ผิดหลักจราจร ทั้งใช้ความเร็วสูงเกินกำหนด เปลี่ยนช่องทางเดินรถฉับพลัน และสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ดื่มแล้วขับ และยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือรถจักรยานยนต์ รถปิคอัพ การเข้าช่วยชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บ และการเข้าถึงจุดเกิดเหตุด้วยความรวดเร็วจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละนาทีที่ผ่านไปสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ คือช่วงเวลาระหว่างความเป็นความตาย สิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่จะลดโอกาสความสูญเสียในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ได้คือ การดูแลรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที

             เทศกาลสงกรานต์ เป็นเทศกาลแห่งความสุขที่ทุกคนอยากอยู่กับคนที่เรารัก จากบ้านมาทำงานต่างถิ่น ต่างพร้อมใจเดินทางกลับบ้าน เป็นสาเหตุให้การจราจรบนท้องถนนทุกเส้นแน่นขนัดเต็มไปด้วยมวลมหารถ ใช้เวลาเดินทางกันยาวนานกว่าปกติ จุดมุ่งหมายเดียวกันของทุกคน คือบ้านที่ทุกคนรออยู่ แต่บางคนไปไม่ถึงที่หมายนั่นหมายถึง เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนระหว่างเดินทาง จากเทศกาลแห่งความสุขอาจจะกลายเป็นวันแห่งการสูญเสียของครอบครัว บางคนอาจโชคดีที่ไม่เสียชีวิต แต่ไม่ว่าจะเสียชีวิตหรือไม่ก็ตาม ทุกคนล้วนไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุใดๆ อยากเดินทางกันปลอดภัย – เล่นน้ำอย่างสนุก ทั้งนี้อยู่ที่เราต้องมีสติไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎจราจร หรือเมื่อเจอเหตุการณ์ต่างๆก็ไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง รวมถึงหากเราเจออุบัติเหตุต่างๆ เราควรช่วยอย่างถูกต้องถูกวิธี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเราด้วยที่ต้องรับเคราะห์เพิ่มอีกราย

            โรงพยาบาลราชวิถี ได้ร่วมรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัย – การลดอุบัติเหตุ นำมาซึ่งการบาดเจ็บ 7การสูญเสียชีวิต หรือความพิการ เนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์การเตรียมความพร้อมของทีมแพทย์ แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน พยาบาลทีมสหสาขาวิชาชีพ และรักษาผู้ป่วย เพื่อรับมือกับอุบัติเหตุฉุกเฉินทุกรูปแบบ แนะวิธีรับมือ พร้อมทั้งการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างถูกวิธี ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิต และลดความสูญเสียในช่วงเทศกาลฯ

            เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน เป็นผู้ที่รับหน้าที่หนักสุดเพราะต้องดูแล-ช่วยเหลือ-รักษาผู้ป่วย – ผู้บาดเจ็บ ที่เกิดจากอุบัติเหตุต่างๆ  ส่วนใหญ่อุบัติเหตุอันดับ1 เกิดจากการเมาแล้วขับ การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และความประมาทจากการใช้รถใช้ถนน โดยสิ่งแรกที่ท่านต้องปฏิบัติคือ การไม่นำตนเองเข้าไปเสี่ยงในอุบัติเหตุหรือภัยต่างๆ การรู้จักระวังตนเองให้ดี เรียนรู้วิธีการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างถูกต้อง เพราะเราไม่สามารถควบคุมผู้อื่นไม่ให้ประมาทหรือทำตามกฎจราจรได้เลย ดังนั้นง่ายๆ ที่เราต้องเตรียมความพร้อมของตัวเราเอง คือ เช็กสภาพรถ ศึกษาเส้นทาง หาข้อมูลเบอร์ฉุกเฉิน มีสติอยู่เสมอ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  เหนื่อยหรือง่วงให้แวะพัก ไม่เล่นมือถือ ต้องไม่ประมาท คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกนิรภัย เคารพกฎจราจร ทั้งนี้การขับขี่ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ รถจักรยานยนต์ควรจะมีน้ำใจให้เพื่อนร่วมทางเสมอ รวมทั้งสภาพอากาศก็เป็นส่วนสำคัญซึ่งเราก็ไม่ควรที่จะร้อนตามสภาพอากาศของบ้านเรา

            นอกจากอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนแล้ว  การดูแลบุตร-หลาน ก็เช่นกัน เพราะเดือนเมษายนเป็นช่วงปิดเทอม เด็กๆมักจะพากันไปเล่นน้ำตามคูคลองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัดจะพบมากกว่าในกทม. และจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุดจากสถิติฯ กระทรวงสาธารณสุขเมื่อปี (2560) เฉลี่ยเด็กอายุ 5-9 ปี จมน้ำเสียชีวิต ร้อยละ 11.4 เด็กเล็ก (อายุ 0-2 ปี)  จมน้ำเสียชีวิต 140 คน (ร้อยละ 19.8 ของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี)   ซึ่งหากทุกคนในครอบครัวช่วยกันระวัง – รับมือ – ช่วยเหลือ- ป้องกันตัวเองและดูแลลูกหลานให้ดี จะได้ไม่เกิดเหตุให้ต้องมาโรงพยาบาล และยังช่วยลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

            ในปัจจุบัน รพ.ราชวิถี อาจจะไม่ได้เจอเคสอุบัติเหตุหรือจมน้ำเสียเสียชีวิตมากเท่าต่างจังหวัด แต่เจ้าหน้าที่ แผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินของเราทำงานกันอย่างต่อเนื่อง จากการมีเคสอุบัติเหตุที่ต้องออกไปรับถึงสัปดาห์ละ 40-50 เคส ยังไม่รวมกับเคสที่ผู้ป่วยเดินทางมาเองอีก ทั้งนี้ โรงพยาบาลมีพื้นที่อำนวยความสะดวกค่อนข้างจำกัด จึงทำให้เกิดความแออัดที่ห้องตรวจอย่างมาก และขณะนี้รพ.กำลังสร้างอาคารศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลฯ เพื่อขยายพื้นที่ในการรองรับ และรักษาผู้ป่วยที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ในอนาคตเมื่ออาคารศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลฯ เสร็จก็จะสามารถเปิดรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น และลดระยะเวลาของการรอรับการรักษาของผู้ป่วยได้

            ดังนั้น ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับ อาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี  โดย สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี “เงินบริจาคของโรงพยาบาลราชวิถี” หมายเลขบัญชี 051-276128-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี หรือ บริจาคเข้าบัญชี “ศูนย์การแพทย์ราชวิถี ในมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี หมายเลขบัญชี 051-2-69056-1 หรือสอบถามโทร 02- 3547997-9 หรือ http://www.rajavithihospitalfoundation.org

          “เชนไดร้ท์” ผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้และป้องกันเชื้อรา ในเมืองไทยมานานกว่า 20 ปี ส่ง “เชนไดร้ท์1 วู้ด พรีเซอร์เวทีฟ วอเทอร์เบส” หรือ เชนไดร้ท์1 ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ สูตรน้ำ เข้าตลาด พร้อมเปิดแคมเปญ “ภายนอกใช้ได้ ภายในยิ่งใช้ดี” บุกตลาดฯด้วยกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องและ หลากหลาย พร้อมกระจายสื่อครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา และผู้ดูแลบ้าน รวมถึงผู้แทนจำหน่าย ปีนี้ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 100 ล้านบาท มั่นใจได้ตามเป้าฯแน่นอน

          นายสิริณัฏฐ์ ชญาน์นันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้และป้องกันเชื้อราในเมืองไทย มานานกว่า 20 ปี ภายใต้แบรนด์ “เชนไดร้ท์” เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจเคมีเคหะภัณฑ์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น  แต่ตลาดฯ นี้ผู้สนใจลงเล่นยังน้อยอยู่จึงเป็นโอกาสดีที่บริษัทฯ จะเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยการส่งสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ ลงตลาดให้มากขึ้นเพื่อตรงกับความต้องการ และได้วางตำแหน่งทางการตลาดเป็นผู้ผลิตสินค้าคุณภาพสูง ที่ได้การรับรองมาตรฐานต่างๆ อีกด้วย

@ ลงตลาดสูตรใหม่

       เชนไดร้ท์ ในฐานะผู้นำด้านผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าป้องกันและกำจัดปลวก ส่ง เชนไดร์ท์ ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ สูตรน้ำ จากเดิมที่มีสินค้า  สูตรน้ำมัน มากว่า 20 ปี โดยสูตรน้ำใหม่ที่ออก นับเป็นรายแรกและรายเดียวที่มีสารไบเฟนทรินขับไล่ปลวกก่อนกินเนื้อไม้ ให้สามารถป้องกันปลวกได้อย่างมั่นใจ

       1.ผลิตภัณฑ์เชนไดร้ท์1 ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ สูตรน้ำมัน เป็นผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ ที่มีสารไบเฟนทริน เป็นเกราะคุ้มกันปลวกและเชื้อรา  เมื่อปลวกหรือแมลงเดินเข้ามาจะรู้ทันทีว่ามีน้ำยา ป้องกัน – รักษาเนื้อไม้จากปลวกและแมลงได้อย่างมั่นใจ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมี 3 สี คือ 1. สีน้ำตาล (Dark Brown ) (DB) 2.สีชา (Light Brown) (LB) 3. ไม่มีสี (Color Less) (CL) ซึ่งมีขนาด 1.8ลิตร , 5 ลิตร และ 15 ลิตร

       2. ผลิตภัณฑ์ “เชนไดร์ท1 ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ สูตรน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ สูตรน้ำ ที่พัฒนาสูตร ให้ป้องกันปลวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทาได้โดยโดยไม่ต้องผสมน้ำ ทาง่ายไม่เปลืองแรง กลิ่นไม่ฉุน โดยใช้สารเดียวกับสูตรน้ำมัน คือ สารไบเฟนทรินที่ช่วยขับไล่ปลวกก่อนกินเนื้อไม้ โดยสามารถทาได้ทั้งภายในและภายนอก  รักษาไม้และเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ขนาด 1.5 ลิตร และ4 ลิตร

       ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ “เชนไดร์ท1 ผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้ สูตรน้ำมันและสูตรน้ำ  ทั้ง 2 สูตร มีจำหน่ายแล้วที่ โฮมโปร ไทวัสดุ โกลบอลเฮ้าส์ ดูโฮม เมกาโฮม และร้านค้าตัวแทนขาย TOA
ทั่วประเทศ

@แผน – กลยุทธ์การตลาด มั่นใจยอดขายตามเป้า

       สำหรับปีนี้ “เชนไดร้ท์1 วู้ด พรีเซอร์เวทีฟ” เราได้วางกลยุทธ์การตลาดด้วยกิจกรรมที่หลากหลายและต่อเนื่องให้กับกลุ่มเป้าหมายและผู้แทนจำหน่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเคลื่อนไหวของผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในกระแสตลาดตลอดเวลา และได้เปิดแคมเปญ “ภายนอกใช้ได้ ภายในยิ่งใช้ดี” พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้ครอบคลุม การจัดโปรโมชั่น การกิจกรมชิงโชค โรดโชว์ และการร่วมออกบูธ ในงานต่างๆ  เพื่อสร้างแรงจูงใจ สร้างการรับรู้และจดจำ อีกทั้งยังจะมีแคมเปญใหญ่ๆ ตลอดทั้งปีอีกด้วย

       นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสินค้า ร้านค้าและช่องทางการขาย โดยเฉพาะร้านค้าตัวแทนสินค้า TOA นับว่าเป็นร้านค้าหลักที่กลุ่มลูกค้าเข้าไปเลือกซื้อสินค้าประเภทนี้ โดยมีการกระตุ้นยอดขาย จัดโชว์สินค้าให้เกิดความโดดเด่น ทั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำผู้นำตลาดของสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาเนื้อไม้และป้องกันเชื้อรา ซึ่งเราได้กระตุ้นยอดขาย รวมถึงขยายและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น พร้อมขยายฐานให้กว้างขึ้นและสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับลูกค้าด้วย ส่วนกิจกรรมทางการตลาดปูพรมสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบทุกช่องทางทั้ง วิทยุ สื่อสิงพิมพ์ ออนไลน์ เพื่อให้ครอบคลุมครบวงจร ทั้งแบบ Below the line และ Above the line

       “จากความมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และการสื่อสารการตลาดครบทุกช่องทาง รวมทั้งการจัดกิจกรรมการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 100 ล้านบาทตามเป้าฯที่วางไว้” นายสิริณัฏฐ์ กล่าวในท้ายสุด

          บริษัท เวิลด์ ฟูดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว ภายใต้แบรนด์ “เจ-มิกซ์ (J-mix)” ผู้นำตลาดน้ำผลไม้ผสมวุ้นน้ำมะพร้าว จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย   “เจ-มิกซ์พาเที่ยวเวียดนาม 2019” ให้กับคู่ค้ารายใหญ่ที่ทำยอดขายเจ-มิกซ์ (J-mix) ได้ทะลุเป้า  โดยมี นายธัชนนท์ จิรศุภางค์กุล ผจก.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ นำทีมพาคู่ค้าสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเวียดนามกลาง  ที่เมือเว้ ดานัง และเมืองโบราณฮอยอัน ประเทศเวียดนาม เมื่อเร็วๆ นี้

           นายปริญญา หุตะเมขลิน  ผู้จัดการฝ่ายบุคคล โรงพยาบาลพระราม9   รับมอบผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจาน “ทีโพล์ เพียว” (Teepol Pure) จาก นายนรินทร์ ตรีสุโกศล ผู้ช่วยรองกรรมการผู้จัดการสายพาณิชย์ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็น น้ำยาล้างจานระดับพรีเมี่ยม ทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุณสมบัติพิเศษไม่ระคายเคืองผิว เพื่อนำไปใช้ในกิจการส่วนต่างๆ ของโรงพยาบาลฯ  ณ  โรงพยาบาลพระราม9  เมื่อเร็วๆนี้

          แบรนด์ซุปไก่ และ ตำรวจทางหลวง ส่งความห่วงใยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน กับกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ “ง่วงไม่ขับ พักดื่มแบรนด์” เพื่อมอบแบรนด์ ซุปไก่สกัดให้ดื่มเพิ่มความ สดชื่นฟรี รวม 45,000 ขวด ในเส้นทางที่มีการสัญจรหนาแน่น 6 จุด คือ จ.เชียงใหม่ จ.พิษณุโลก จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.สุราษฎร์ธานี

          พันตำรวจเอก วัฒนา แก้วดวงเทียน รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง กล่าวว่า “ตำรวจทางหลวงซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีประชาชนใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมากทำให้มีปริมาณรถบนทางหลวงมีมากกว่าในช่วงปกติ จึงมีแนวโน้มจะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ตำรวจทางหลวงซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถ ใช้ถนน จะกวดขันให้ผู้ขับขี่ทั้งรถส่วนตัวและรถโดยสารประจำทางให้ปฏิบัติตามกฎจราจรโดยเคร่งครัด ทั้งเรื่องของการใช้ความเร็วตามที่กำหนด คาดเข็มขัดนิรภัย งดใช้โทรศัพท์มือถือ และไม่ขับรถขณะเมาสุราเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

ด้าน นางสาวนันทนา ขาวปลื้ม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่าในปีนี้ บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ ได้ให้การสนับสนุนตำรวจทางหลวง ในการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ในจุดรณรงค์ให้ผู้ขับขี่แวะพักรับแบรนด์ ซุปไก่สกัด ให้ดื่มเพิ่มความสดชื่นฟรี รวม 45,000 ขวด ในเส้นทางที่มีการสัญจรหนาแน่นจำนวน 6  จังหวัดทั่วไทย ระหว่างวันที่ 12 เม.ย. 2562 -16 เม.ย. 2562 คือ

1. จังหวัดเชียงใหม่

• ใต้สะพานดอนจั่น / สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงใหม่ (อาเขต)
• สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดย กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธร จ. เชียงใหม่

2. จังหวัดพิษณุโลก

• หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงวัดโบสถ์
• ปั๊มนำมัน PTT Station สาขาดอนทอง

3. จังหวัดขอนแก่น

• สถานีตำรวจทางหลวง2 กองกำกับการ 4
• หน่วยบริการประชาชน ตำรวจทางหลวงบ้านไผ่

4. จังหวัดนครราชสีมา

• หน่วยบริการประชาชน ปักธงชัย

5. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

• สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 2
• หน่วยบริการตำรวจทางหลวงห้วยมงคล
• หน่วยบริการตำรวจทางหลวงเกาะหลัก

6. จังหวัดสุราษฎร์ธานี

• สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองบังคับการ 2
• หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงกาญจนดิษฐ์

ซึ่งสงกรานต์นี้หากใครผ่านเส้นทางดังกล่าวก็สามารถแวะพักรับแบรนด์ ซุปไก่สกัด ให้ดื่มฟรีได้

ร่วมสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ จากธรรมชาติสู่งานวิจัย เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

ชวนนักวิจัยขอรับทุน แบรนด์ เฮลธ์ รีเสิร์ช อวอร์ด 2019

          ขอเชิญผู้สนใจส่งผลงานขอรับทุนวิจัย แบรนด์ เฮลธ์ รีเสิร์ช อวอร์ด 2019 ประเภทวงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อปีโดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยทางโภชนศาสตร์ เภสัชศาสตร์และสาขาที่เกี่ยวข้องให้แก่แพทย์เภสัชกร นักโภชนาการ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการทั่วไป สนใจสมัครขอรับทุนวิจัยได้แล้วตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 กรกฎาคม 2562 สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.brandsworld.co.th

          ศ.เกียรติคุณ นพ.จอมจักร จันทรสกุล ประธานคณะกรรมการพิจารณาทุนวิจัยแบรนด์ เฮลธ์ รีเสิร์ซ อวอร์ด 2019 เปิดเผยว่า โครงการทุนวิจัยแบรนด์ เฮลธ์ รีเสิร์ช อวอร์ด 2019 เป็นการมอบทุนวิจัยจำนวน 500,000 บาท ต่อปี โดยไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ให้กับงานวิจัยในสาขาที่เกี่ยวกับอาหาร ผลิตภัณฑ์อาหาร สมุนไพรและยา รวมทั้งพฤติกรรมการบริโภคที่มีผลต่อโภชนาการบำบัด และการส่งเสริมสุขภาพ ตลอดจนสาขาที่เกี่ยวข้องโดยก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ เพื่อนำไปประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม และเป็นการสนับสนุนให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ทางด้านสุขภาพอีกด้วย ที่ผ่านมามีนักวิจัยได้รับทุนไปกว่า 60 คน

          ด้าน นางมธุวลี สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทเล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนงานวิจัยและการค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านสุขภาพมาโดยตลอด จึงสนับสนุนและมอบทุนวิจัยอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 19  นับเป็นความภูมิใจของบริษัทที่ทุนวิจัยแบรนด์เฮลธ์ รีเสิร์ ชอวอร์ด ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเติมเต็มและก่อ เกิดประโยชน์ต่อสังคม จึงขอเชิญชวนแพทย์ เภสัชกร นักโภชนาการ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์และนักวิชาการทั่วไปร่วมส่งผลงาน เพื่อขอรับทุนได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 สามารถดาวน์โหลดใบสมัครและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.brandsworld.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2079-7999

          นพ.อุดม เชาวรินทร์ กรรมการผู้จัดการมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี และคณะแพทย์โรงพยาบาลราชวิถี รับมอบเงินบริจาคจำนวน 1 ล้านบาท  จาก พระพรหมมงคล วิ.(หลวงปู่ทอง) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุ ศรีจอมทองวรวิหาร อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่  เพื่อสมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ และสร้างอาคารศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลฯ ณ  มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อเร็วๆนี้

          สำหรับท่านที่สนใจ… สามารถร่วมบริจาคได้ที่ “ศูนย์การแพทย์ราชวิถี ในมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโรงพยาบาลราชวิถี หมายเลขบัญชี 051-2-69056-1 หรือ สอบถามโทร 02–3547997-9หรือ https://www.rajavithifoundation.com

                พันตำรวจเอกวัฒนา แก้วดวงเทียน รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ร่วมกับ นางสาวนันทนา ขาวปลื้ม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัด นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมัน PTT Station แถลงข่าว เปิดแคมเปญ “ง่วงไม่ขับ พักดื่มแบรนด์” เพื่อรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ และแจกแบรนด์ซุปไก่สกัดให้ประชาชนที่เดินทางช่วงสงกรานต์ปีนี้ได้ดื่มฟรี รวม 45,000 ขวด ในเส้นทางที่มีการสัญจรหนาแน่นจำนวน 6 จุด ทั่วประเทศ คือที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี นายจิระศักดิ์ ประทุมทอง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปมณฑล สำนักปฏิบัติการบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) นายเอนก บัวนาเมือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด นางสาวอรญา หอมเศรษฐี ร่วมงานแถลงข่าวดังกล่าว  ณ กองบังคับการตำรวจทางหลวง กรุงเทพฯ

          มร.ทาฮา แมคเฟอร์สัน เอกอัคราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ร่วมด้วย นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการตลาด หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย และนางสาวเจนนี่ มาร์ติน หัวหน้าภาคพื้นเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ มอบทุนการศึกษามูลค่า 390,000 บาท พร้อมตั๋วเครื่องบินฟรี กรุงเทพ-สิงคโปร์-โอ๊คแลนด์ แก่ตัวแทนนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จากจังหวัดทั้ง 4 ภาค ได้แก่ ชลบุรี พิษณุโลก นครศรีธรรมราช และมุกดาหาร เพื่อไปศึกษาหลักสูตรการพัฒนาภาษาอังกฤษที่ศูนย์ภาษา มหาวิทยาลัยโอทาโก ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเวลา 10 สัปดาห์ โดยมี ดร.โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถานทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

New Zealand grants scholarship fundingto 4 PCSHS students

            Mr. Taha Macpherson, New Zealand Ambassador to Thailand recently awarded Education New Zealand Scholarship worth THB 390,000 and four Air New Zealand return flights from Bangkok to Dunedin, New Zealand, to four Princess Chulabhorn Science High School (PCSHS) students to study a 10 week English language development programme at University of Otago Language Centre. Other witnesses joining the ceremony were Ms. ChortipPramoolpol, Education New Zealand Market Manager (Thailand), Ms. Jenni Martin, Head of South and South East Asia of Air New Zealand and Dr. KosolPetchsuwan, Advisor to steering committee of PrincessChulabhorn Science High School at New Zealand Embassy in Bangkok.

         นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และ นพ.กำธร ลีลามะลิ หัวหน้าศูนย์ไตเทียม นายแพทย์เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลราชวิถี ร่วมเปิดงาน “วันไตโลก 2562” จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของโรคไต และให้ตรวจสุขภาพไตอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี ภายใต้คำขวัญ “ทุกคนทั่วไทย ไตแข็งแรง”โดยภายในงานมีการตรวจคัดกรองโรคไตเบื้องต้น การเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไต โดยมีผู้สนใจและเข้าร่วมงานจำนวนมาก ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ (หน้าห้องตรวจอายุรกรรมเฉพาะโรค) ชั้น 1 ตึกอายุรกรรม เมื่อเร็วๆนี้